นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการส่งออกของไทยในเดือนตุลาคม 2560 มีมูลค่า 20,083 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 13.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ทั้งนี้เมื่อรวม 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม 2560) ส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 195,518 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 6 ปี
ทั้งนี้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้หากมูลค่าส่งออกสามารถทำได้เฉลี่ยเดือนละ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะทำให้การส่งออกทั้งปีเติบโตสูงถึง 10% ซึ่งการส่งออกขณะนี้ทำได้เกินเป้าหมาย 8% แล้ว เป็นผลมาจากการค้าโลกที่มีการขยายตัวทุกภูมิภาค และการส่งออกรถยนต์ดีขึ้น รวมทั้งสินค้าเกษตร การส่งออกสำคัญขยายตัวได้ดีหมด
สำหรับนำเข้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีมูลค่า 19,869 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.5% และเมื่อรวม 10 เดือนนำเข้ามีมูลค่าทั้งสิ้น 183,073 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 14.6% ส่งผลให้ดุลการค้าเดือนตุลาคม เกินดุล 214 ล้านดอลลาร์และเมื่อรวม 10 เดือน ไทยยังคงมีดุลการค้าเกินดุล 12,445 ล้านดอลลาร์
“ตอนนี้การส่งออกขยายตัวได้เกินเป้าหมาย ซึ่งอีก 2 เดือนไม่ต้องทำอะไร หรือไม่ขยายตัวเลย ก็ยังได้ตามเป้าหมายคือ 8% แต่มองว่าการส่งออกยังคงดีและอาจขยายตัวสูงถึง 9-10% โดยเฉพาะการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ น้ำมัน อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป โดยมีปัจจัยสำคัญจากการฟื้นตัวของปริมาณการค้าโลก และราคาน้ำมันดิบ รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี จะทำให้ค่าบาทอ่อนลง เป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกไทย”
ส่วนการส่งออกข้าวไทยทั้งปีนั้นคาดว่าจะทำได้เกิน 11 ล้านตัน ซึ่งตอนนี้ส่งออกข้าวไปแล้ว 8-9 ล้านตัน โดยในปี 2561 ยังคงเน้นส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่คาดว่าจะได้ราคาดี ซึ่งจะเดินหน้าขยายตลาดข้าวต่อไป รวมถึงยางพาราที่ยังดีต่อเนื่อง นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ยังเร่งสนับสนุนผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นอีกเครื่องมือให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยค้าขายคล่องตัวขึ้น
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกปีหน้า มี 2 ประเด็นที่ต้องจับตามอง คือ ต้องดูดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ถึงแม้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไร ถ้าหากขึ้นก็ส่งผลต่อค่าเงิน และยังมีปัจจัยกลุ่มตะวันออกกลาง มีบางประเทศเปลี่ยนราชวงศ์ อาจส่งผลเรื่องนโยบายน้ำมัน โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าส่งออกปีหน้าจะขยายตัว 5% แต่แนวโน้มอาจจะเกินกว่าที่คาด ต้องติดตามราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยนในปีหน้าด้วย
“สินค้าบางกลุ่มกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ แต่อยากให้มองมูลค่ามากกว่า หากปีหน้าไทยยังส่งออกได้ 19,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนก็ถือว่าพอใจแล้ว และในปีหน้านั้นก็จะมีฐานสูงจากปีนี้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่ค่าเงินบาทในช่วงนี้ยังมั่นใจว่าจะอยู่ในกรอบ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผู้ค้าบางรายมองว่าจะหลุดไปถึง 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว