สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมไทย ก้าวไกลสู่ยุค 4.0
08/11/2017
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล


นายสมหวัง บุญรักษ์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรม การผลิตของไทย ว่า TGI เป็นสถาบันในเครือข่าย ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายภารกิจจากกระทรวงอุตสาหกรรมในการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย โดยการเพิ่มผลิตภาพของอุตสาหกรรมการผลิต ด้วยการยกระดับเทคโนโลยี นวัตกรรมและบุคลากร ด้วยหุ่นยนต์ (Robot) และระบบอัตโนมัติ (Automation) รวมทั้งเครื่องจักรกลและแม่พิมพ์ ให้สามารถแข่งขันบนเวทีโลกในยุคอุตสาหกรรม 4.0 “ปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตไทย คือ การขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ ซึ่งขาดแคลนทั้งจำนวนและคุณภาพ ในฐานะที่ TGI มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เห็นว่าการแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรมการผลิตจะต้องแก้ไขด้วยการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน และนำระบบอัตโนมัติ (Automation) และหุ่นยนต์ (Robot) เข้ามาใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตให้มากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งภาคอุตสาหกรรมก็จะต้องก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เช่นเดียวกัน” ผู้อำนวยการ TGI กล่าวต่อไปว่า การที่ผู้ประกอบการจะพัฒนาอุตสาหกรรมของตนจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไปสู่อุตสาหกรรม 3.0 หรืออุตสาหกรรม 4.0 นั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคำนึงถึงศักยภาพ และตลาด



เนื่องจากการลงทุนด้านหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ต้องมีปัจจัยในเรื่องปริมาณการผลิตเข้ามาประกอบด้วย ผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน และความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในประเทศไทย ความต้องการของตลาดจะเป็นตัวชี้นำด้านการลงทุน “TGI พร้อมให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมการผลิตในการพัฒนาหรือยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน



โดย TGI มี Software เพื่อจำลองให้เห็นว่า การนำหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแล้วจะเกิดผลดีกับโรงงานในด้านผลิตภาพ ต้นทุน คุณภาพ ได้อย่างไรบ้าง และสามารถคำนวณถึงจุดคุ้มทุนได้ด้วย ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการตัดสินใจได้ทันที และหากผู้ประกอบการตัดสินใจลงทุนด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ TGI ก็พร้อมให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การออกแบบ การประกอบติดตั้ง จนเสร็จสิ้นทั้งระบบและพร้อมใช้งาน” นายสมหวัง กล่าวถึงระบบอัตโนมัติ (Automation) และหุ่นยนต์ (Robot) ต่อไปว่า กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะเลขานุการร่วมคณะอนุกรรมการเร่งรัดนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษคลัสเตอร์หุ่นยนต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้เร่งผลักดันมาตรการส่งเสริมการลงทุนและวางนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการดังกล่าว




เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 เพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) ของประเทศ และยังเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมอนาคต (S-curve และ New S-curve) อื่นๆ อีก 9 คลัสเตอร์ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่ง TGI ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ตั้งแต่แม่พิมพ์ ชิ้นส่วนต่างๆ และต้องดูแนวโน้มต่อไปในเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามา ชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์จะลดลงอย่างมาก ยานยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมปลายน้ำ ก็ต้องปรับตัว ซึ่ง TGI ก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร TGI ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง

จึงได้เป็นที่ปรึกษาเทคโนโลยีในการผลิตรากฟันเทียม ซึ่งประสบความสำเร็จโดยฝีมือคนไทยแล้ว สิ่งที่จะทำต่อไปคือร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในด้านการผลิตเหล็กดามกระดูก ข้อเข่าเทียม ข้อสะโพกเทียม เลนส์แก้วตาเทียม โดย TGI เข้าไปช่วยในลักษณะของการทำต้นแบบ ส่วนการผลิตต้องเป็นหน้าที่ของเอกชนที่ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดไว้ให้ได้ เป็นต้น



“ในส่วนของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว น่าจะขึ้นอยู่กับตลาด หรือความต้องการ ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มจำนวน SI (System Integrator) ในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดย SI จะไปรับความต้องการจากลูกค้าตามโรงงาน และเลือกประเภทของหุ่นยนต์ที่เหมาะสมกับงานของลูกค้า จากนั้นก็ออกแบบและผลิตหุ่นยนต์ขึ้นมาโดยซื้อชิ้นส่วนที่ไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ เช่น มอเตอร์ ชุดขับเคลื่อน มาประกอบเป็นหุ่นยนต์ ถ้าจะให้เกิดอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในประเทศไทยน่าจะพัฒนาจาก SI ก่อน และเมื่อ SI มีการประกอบหุ่นยนต์ได้เป็นจำนวนมาก ก็สามารถผลิตเป็นหุ่นยนต์แบบมาตรฐานได้ หุ่นยนต์ที่มีแนวโน้มความต้องการสูง คือ หุ่นยนต์บริการ เช่น หุ่นยนต์ดินสอ การสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มาผลิตหุ่นยนต์บริการ ก็เชื่อว่าอุตสาหกรรมหุ่นยนต์น่าจะไปเร็ว แต่ TGI คงเน้นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเป็นหลัก เพื่อให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐบาล” ผู้อำนวยการสถาบันไทย-เยอรมัน กล่าวในตอนท้าย
ที่มาของข่าว: ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.