นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเปิดเผยสถิติการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ เครื่องจักรในช่วง 9 เดือนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนว่ามีการจดทะเบียนกรรมสิทธ์เครื่องจักรแล้ว 941 ราย จำนวน 4,725 เครื่อง รวมมูลค่าเครื่องจักรที่จดทะเบียน 1.68 แสนล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อื่นที่ทำจากโลหะ 235 ราย จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 555 เครื่อง มูลค่าจดทะเบียน 1.8 พันล้านบาท 2.อุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า 125 ราย จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 722 เครื่อง มูลค่าจดทะเบียน 3.3 หมื่นล้านบาท
3.อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพลาสติก 120 ราย จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 498 เครื่อง มูลค่าจดทะเบียน 2.1 พันล้านบาท 4.อุตสาหกรรมการพิมพ์ 97 ราย จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 133 เครื่อง มูลค่าจดทะเบียน 1 พันล้านบาท และ 5.อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ จากอโลหะอื่น 46 ราย จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 91 เครื่อง มูลค่าจดทะเบียน 2.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ พบว่าการจดทะเบียนลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอาจเป็นเพราะความคล่องตัวของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจที่มีมากขึ้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องจดทะเบียนเครื่องจักรเพื่อใช้ในการจดจำนองเครื่องจักรกับธนาคาร ทั้งนี้ คาดการณ์ในไตรมาสสุดท้ายปี 2560 จะมียอดจดทะเบียนกรรมสิทธ์เครื่องจักรแตะ 1,200 ราย ซึ่งคาดว่าจะมูลค่าเครื่องจักรที่จดทะเบียนกว่า 2.1 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในปี 2561 จากข้อมูลสถิติตั้งแต่ปี 2515 ถึงปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ เครื่องจักรแล้ว 59,788 ราย จำนวน 811,726 เครื่อง รวมมูลค่าเครื่องจักรที่จดทะเบียน 5.87 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้กรมโรงงานฯได้เพิ่มช่องทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรกำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน เข้ามาช่วยตรวจสอบเครื่องจักรแทนพนักงานเจ้าหน้าที่โดยต้องได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน เพื่อช่วยให้ประหยัดเวลาและมี ความสามารถในการให้บริการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าถึง 1,800 ฉบับต่อปี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2560 เบื้องต้น คาดว่ามีเอกชนเปิดให้บริการตรวจสอบเครื่อง 20 ราย