บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกาศความเป็นผู้นำตลาดรถขุดใหม่ขนาดเล็ก ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศ ชูจุดเด่นแกร่งรอบตัว ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าและอุปกรณ์ต่อพ่วง พร้อมบริการหลังการขายที่ดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจก่อสร้าง และการตอบสนองนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ของรัฐบาล
นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถขุดขนาดเล็กในปีที่ผ่านมาของประเทศไทย มียอดขายประมาณ 6,000 คัน แบ่งสัดส่วนเป็นรถขุดใหม่ 40% และรถขุดมือสอง 60% และคาดว่าในปีนี้ ตลาดรถขุดขนาดเล็ก จะเติบโต 20% สำหรับคูโบต้ายังคงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถขุดขนาดเล็ก โดยครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 70% และรถขุดยี่ห้ออื่นๆ อีก 30% โดยในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายอยู่ประมาณ 2,000 คัน หรือเติบโตจากปี 2559 ประมาณ 25%
สำหรับปัจจัยที่มีแนวโน้มต่อการเติบโตมาจากเงินลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน โดยภาครัฐยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากนโยบายเกี่ยวกับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ด้านการคมนาคมขนส่ง ทั้งการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร การก่อสร้างถนนและสะพานต่างๆ เพื่อเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่วนภาคเอกชนก็มีการเติบโตเช่นกัน โดยหลักๆ มาจากการเติบโตตามหัวเมืองใหญ่หลักๆ ของประเทศตามเส้นทางการพัฒนาโครงสร้างของภาครัฐ” นายโอภาศ กล่าวเพิ่มเติม
นายสมบูรณ์ จินตนาผล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขายและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันรถขุดขนาดเล็ก ได้มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในเขตพื้นที่ชุมชนเมือง เราจึงได้มีการนำรถขุดคูโบต้า รุ่น U15-3 ขนาด 1.6 ตัน เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เพื่อตอบโจทย์การทำงานในเขตชุมชนเมือง ด้วยขนาดกระทัดรัด ความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับการทำงานในพื้นที่จำกัด ซึ่งถือเป็นรถขุดขนาดเล็กที่สุดของคูโบต้าและเป็นเจ้าเดียวในตลาด นอกจากนี้ รถขุดขนาดเล็กคูโบต้า ยังมีจุดเด่นในเรื่องแกร่งรอบตัว ที่นำเทคโนโลยีเฉพาะของรถขุดคูโบต้า ที่เรียกว่า “SYNC POWER TECH” มาผสาน 3 พลังความแกร่ง ทำให้รถขุด คูโบต้าทำงานได้อย่างคล่องตัว และเหมาะสมกับสภาพงานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ในส่วนของการทำตลาดรถขุดขนาดเล็กคูโบต้านั้น บริษัทฯ ได้มุ่งพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และออกอุปกรณ์ต่อพ่วงใหม่ๆ เช่น หัวเจาะไฮดรอลิก (Hydraulic Breaker) เครื่องบดอัดดิน (Compactor) ข้อต่อเปลี่ยนอุปกรณ์ (Quick Coupler) และ หัวเจาะสว่าน (Auger) เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน รวมถึงให้ความสำคัญกับงานบริการหลังการขายที่พร้อมดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดจากศูนย์บริการที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ มีความพร้อมในเรื่องของอะไหล่แท้ที่ครบครัน หาซื้อง่าย เนื่องจากสยามคูโบต้า มีศูนย์กระจายอะไหล่สยามคูโบต้า เพื่อรองรับการบริการหลังการขาย และจัดส่งอะไหล่ให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว
นอกจากนี้ คูโบต้ายังเป็นแบรนด์สินค้าแรกที่ได้มีการพัฒนาเครื่องฝึกขับรถขุดคูโบต้า โดยนักวิจัยในประเทศ 100% ร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) แห่ง สวทช. เพื่อเข้ามาช่วยให้การฝึกขับและใช้งานรถขุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยแก่ ผู้ฝึกขับ และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเตรียมเครื่องจักร สถานที่ และอุปกรณ์ในการฝึกขับได้อีกด้วย
“กลยุทธ์ที่สำคัญในการทำตลาดของสยามคูโบต้า คือ การสร้างโอกาสการขายกับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ซึ่งนอกจากกลุ่มก่อสร้างที่เป็นลูกค้าหลักแล้ว กลุ่มลูกค้าที่สำคัญรองลงมา คือ กลุ่มเกษตรกร ที่ปัจจุบันมีลูกค้าบางส่วนนำรถขุดคูโบต้าไปใช้ในงานสวน เช่น การปรับพื้นที่ ขุดร่องน้ำ วางระบบท่อในสวน เป็นต้น และการรักษาฐานลูกค้า โดยเน้นเรื่องของการบริการหลังการขายที่ดูแลลูกค้า ทั้งที่ยังอยู่ในระยะรับประกัน ด้วยโครงการ Beyond Service Checking และนอกระยะรับประกัน ด้วยโครงการคูโบต้า เซอร์วิส แคร์ พร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดอะไหล่” นายสมบูรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2551 สยามคูโบต้าได้เริ่มนำเข้ารถขุดใหม่ขนาดเล็กมาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรถขุดคูโบต้าที่นำเข้ามามีฐานการผลิตรถขุดขนาดเล็กอยู่ที่เมืองฮิระกะตะ ประเทศญี่ปุ่น