นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้อนุมัติสินเชื่อ 2 รายแรกแล้วรายละ 3 ล้านบาท โดยเป็นผู้ประกอบการจากจังหวัดน่าน ขณะเดียวกัน การทำงานของคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนประจำจังหวัดต่างๆ ได้ทยอยรับคำขอ และได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการกว่า 7,000 ราย เพราะมีส่วนราชการในจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และหอการค้าจังหวัดช่วยกันกระจายข่าว
ทั้งนี้ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อมอบนโยบายการพัฒนาเอสเอ็มอีและมอบเงินทุนให้กับผู้ประกอบการใน 6 จังหวัดภาคใต้ นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยังมีแผนจัดสัมมนาเพื่อชี้แจงเงินกองทุนต่างๆ ของหน่วยงานรัฐที่ให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอี ใน 8 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ ชลบุรี นครปฐม เชียงใหม่ พิษณุโลก กระบี่ สงขลา อุบลราชธานี และอุดรธานี โดยแต่ละจังหวัดจะเริ่มทยอยพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ มีเงื่อนไขสำคัญคือเอสเอ็มอีที่อยู่ในข่าย จะต้องอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) และหรือเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ คือ ธุรกิจที่มีฐานจากนวัตกรรม หรืออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จังหวัดทางภาคใต้ คือ ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและเกษตรแปรรูป หรือตามประกาศของแต่ละจังหวัด
“การกำหนดวงเงินสินเชื่อต่อรายครั้งนี้เป็นนโยบายของรมว.อุตสาหกรรม (นายอุตตม สาวนายน) ที่ต้องการกระจายความช่วยเหลือให้เข้าถึงเอสเอ็มอีมากรายที่สุด โดยกำหนดอนุมัติสินเชื่อ ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย ในสัดส่วน 75% ของวงเงินที่จังหวัดได้รับการจัดสรร และวงเงินช่วยเอสเอ็มอีขนาดกลาง ตั้งแต่ 3-10 ล้านบาท ในสัดส่วน 25% ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีวงเงินช่วยเหลือเอสเอ็มอีไม่เท่ากัน โดยมีวงเงินตั้งแต่ 186-255 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของ GPP จังหวัด” นายสมชายกล่าว
การขอกู้เงินจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ มีระยะเวลาให้กู้ยืมไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้น 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปีตลอดอายุสัญญา ยื่นคำขอสินเชื่อได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ SME Development Bank ทุกสาขา ดาวโหลดเอกสารคำขอได้ที่ http://www.smessrc.com