นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานประชารัฐชุดส่งเสริมเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และโซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์ (ดี2) ภายใต้คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ว่า ภาครัฐและเอกชนพร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยออกมาตรการที่ช่วยทั้งเงินและทักษะ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายจิ๋ว (ไมโครเอสเอ็มอี) ที่มีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน
โดยสามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ย 0% จากกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่จัดสรรเงินวงเงิน 500 ล้านบาทจากวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งให้รายละไม่เกิน 200,000 บาท ระยะเวลาคืนเงิน 10 ปี ปลอดเงินต้น 3 ปีแรก รวมทั้งจัดสรรเงินจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐออกมา 3,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1%จากวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ให้ไมโครเอสเอ็มอี รายละไม่เกิน 600,000 บาท ระยะเวลาคืนเงิน7 ปี ปลอดเงินต้น 3 ปีแรก
“การช่วยเหลือครั้งนี้จะครอบคลุมไมโครเอสเอ็มอีที่มีปัญหาหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) สามารถกู้ได้เช่นกัน และยังได้จัดสรรวงเงินอีก 100 ล้านบาท เพื่อทำโครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าของไมโครเอสเอ็มอี เช่น ให้ความรู้ด้านการตลาด ไอที ตรวจสอบสุขอนามัยของสินค้า จูงใจให้ทำบัญชีถูกต้อง คาดว่าโครงการทั้งหมดจะช่วยเหลือได้ถึง 15,000 ราย โดยเอสเอ็มอีสามารถเข้าไปติดต่อตามช่องทางต่างๆ เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (ศูนย์ซับพอร์ตแอนด์เรสคิว)กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสสว.” นายอุตตม กล่าว
สำหรับวงเงินที่เหลือของกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีและกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ยังเดินหน้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั่วไป ภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกันกับไมโครเอสเอ็มอี กำหนดเป้าหมายช่วยเหลือ แบ่งเป็น กองทุนฟื้นฟู 2,000 กิจการ กองทุนพลิกฟื้นวงเงิน 1,000 ล้านบาท เป้าหมาย 1,000 กิจการ และกองทุนเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 5,000 กิจการ และยังมีวงเงินสินเชื่อเอสเอ็มอี ทรานส์ฟอร์เมชั่น โลน อีก 15,000 ล้านบาทจากเอสเอ็มอีแบงก์ ดอกเบี้ย 3% ระยะเวลาคืนเงิน 7 ปีปลอดเงินต้น 1 ปี รวมวงเงินสินเชื่อสำหรับการช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั้งระบบ 38,000 ล้านบาท