นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่าจากการดำเนินโครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลาก ซึ่งพพ. ดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ปัจจุบันได้ติดฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงในวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร อุปกรณ์ในครัวเรือนที่ไม่ใช้ไฟฟ้า และกลุ่มวัสดุก่อสร้างทั้งสิ้น 11 ผลิตภัณฑ์ และมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ค่าประสิทธิภาพขั้นสูงถึง 1,800 รุ่น
โดย พพ. ได้ออกฉลากประสิทธิภาพสูงดังกล่าวแล้วประมาณ 23 ล้านใบ ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานเทียบเท่าน้ำมันดิบรวม 150,000 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ คิดเป็นมูลค่า 4,500 ล้านบาท และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวม 0.75 ล้านตัน โดยในปี 2560 จะติดฉลากในผลิตภัณฑ์ใหม่ อีก 5 ผลิตภัณฑ์ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่พพ.ออกฉลากทั้งสิ้น 16 ผลิตภัณฑ์ และตั้งเป้าออกฉลากฯ 28 ล้านใบ
การดำเนินงานของพพ. จะยังคงส่งเสริมการติดฉลากอย่างต่อเนื่องเพิ่มการติดฉลากผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่อีก 5 ชนิด ได้แก่ มอเตอร์เหนี่ยวนำเฟสเดียว เตารังสีอินฟราเรด ฟิล์มติดกระจก ชิ้นส่วนคอนกรีตมวลเบา และหลังคากระเบื้อง ซึ่งจะพิจารณาถึงความพร้อมของผู้ประกอบการด้วย เบื้องต้น พพ. มั่นใจว่าจะช่วยให้เกิดการขยายผลของการมอบฉลากประสิทธิภาพสูงในวัสดุอุปกรณ์ประหยัดพลังงานของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทำให้เกิดผลประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น
“โครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลากพพ.จะเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการได้รับรู้ และเลือกใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงเพื่อการอนุรักษ์พลังงานอย่างถูกต้อง รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมผลิตสินค้าประสิทธิภาพสูงที่ช่วยการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแล้ว ยังช่วยให้ลดการใช้พลังงานของประเทศในภาพรวมด้วย” นายประพนธ์กล่าว
การติดฉลากประสิทธิภาพสูงในวัสดุอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้พลังงาน พพ. ตั้งใจให้ผู้บริโภคสามารถสังเกตได้ที่ฉลาก ซึ่งจะมีตราสัญลักษณ์ของกระทรวงพลังงานชัดเจนหากอุปกรณ์นั้นมีค่าตัวเลขประสิทธิภาพสูงมากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น