สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

“ชูไก”ปักธงสานต่อธุรกิจครอบครัว รุกธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก ตั้งเป้าเติบโตยั่งยืน หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยพัฒนาประเทศ
26/12/2016
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

อัญญ์ชิสา แพรรังสี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน)

        เดินหน้าสานต่อธุรกิจครอบครัว รุ่นสอง“ชูไก”มุ่งมั่นรุกธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก เผยการก้าวผ่านความท้าทายและประสบการณ์ทำงาน รวมทั้ง คำสอนของรุ่นพ่อที่มีหัวใจของการเป็นผู้ประกอบการอยู่เต็มร้อย พร้อมตั้งเป้าเติบโตอย่างยั่งยืน หวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาประเทศ 
       
       อัญญ์ชิสา แพรรังสี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก ด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง ของบริษัทฯ ว่า เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน อุโมงค์ สะพาน ท่าเรือ โรงกลั่นน้ำมันโรงไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งแต่ละปีบริษัทฯ มีรายได้เกือบหนึ่งพันล้านบาท แม้ว่าจะเป็นส่วนเล็กๆ เมื่อเทียบกับภาพรวม แต่ถือเป็นความภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติ
       
       สำหรับแนวโน้มของธุรกิจดังกล่าวขึ้นอยู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการขายและการเช่ารถเครนและรถเข็มเจาะสำหรับงานฐานรากนั้นมีแนวโน้มเติบโต ขณะที่ คนขับรถซึ่งเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญมีแนวโน้มว่าจะขาดแคลน ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่จะแก้ปัญหาและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจไปในเวลาเดียวกัน ด้วยการจัดหาและฝึกหัดคนขับรถที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อเตรียมพร้อมให้กับลูกค้าที่ซื้อรถและต้องการคนขับด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นอกจากการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความสามารถของพนักงานขับรถและทีมงานด้านวิศวกรรมของบริษัทฯ ที่มีอยู่มากกว่า 200 คน โดยเน้นหนักเรื่องความปลอดภัยและการสร้างให้เกิดความภาคภูมิใจในงานที่ทำว่ามีความสำคัญและต้องใช้ความสามารถพิเศษ
       
       “อุบัติเหตุของรถเครนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักจะมาจากความประมาทและไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายให้คนขับรถเครนต้องมีใบอนุญาติขับขี่รถเครนโดยเฉพาะ ดังนั้น พนักงานขับรถเครนที่ทำงานอยู่ทั่วไปจึงไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะและมีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในส่วนของเราให้ความสำคัญอย่างมาก เรามีการทดสอบทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้พนักงานของเราเข้าใจและตระหนักในงานของตนเองอย่างดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา เราไม่เคยมีอุบัติเหตุเลย”
       

       ในการเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจครอบครัวที่พ่อคือธงไชย แพรรังสี ก่อร่างสร้างมาและก้าวมากว่า 30 ปีแล้ว ในส่วนรุ่นลูกซึ่งเธอเป็นคนแรกที่มาช่วยสืบทอดกิจการนั้น มุ่งเป้าหมายที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนสืบไปจนถึงรุ่นหลาน จากประสบการณ์ 13 ปีที่ผ่านมา เธอกล่าวว่ามีจุดท้าทายในช่วงต่างๆ โดยช่วงเริ่มแรกของการทำงาน ในขณะที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และเป็นผู้หญิงอีกด้วย ทำให้ลูกค้าไม่ให้ความเชื่อถือ จึงแก้ปัญหาด้วยการศึกษา จัดเตรียมข้อมูลอย่างดี และใช้วิธีการนำเสนอที่เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าเปิดใจยอมรับมากขึ้นเพราะเห็นว่ามีการเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ และรู้จริง
       
       ส่วนความรู้ด้านการตลาดและภาษาอังกฤษที่ได้รับมาจากการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเอแบคสามารถนำมาใช้ในการทำงานได้อย่างดีมาตลอด และด้วยการเป็นคนรุ่นใหม่จึงได้นำเทคโนโลยีเข้าไปใช้ในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นและทันต่อยุคสมัย เช่น การใช้ Line ในการติดต่อสื่อสารทั้งกับภายในองค์กรและลูกค้า เป็นต้น
       
       ในเรื่องแบรนด์จีนที่เป็นอุปสรรคช่วงแรกๆ สำหรับลูกค้าที่ไม่เชื่อมั่น จึงใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการให้ลูกค้าทดสอบอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และยังใช้เองเพื่อให้รู้ถึงข้อเด่นและข้อด้อย ส่วนความท้าทายในเรื่องคู่แข่งที่มีมากขึ้น ทำให้ต้องสร้างจุดเด่นที่แตกต่างด้วยการมีบริการที่ครบถ้วน สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ทุกเรื่อง การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า เช่น ไม่ใช่การให้เช่ารถเพียงอย่างเดียวเหมือนรายอื่น แต่เพิ่มการบริการให้ด้วย อย่างการขนส่งและการดูแลด้วยทีมวิศวกรที่มีความชำนาญ เป็นต้น
       
       “สิ่งที่ทำคือเมื่อลูกค้าบอกปัญหามา เราต้องพร้อมทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว เราเข้าใจลูกค้า เพราะเราไม่ได้ทำงานขายอย่างเดียว แต่ทำงานเช่าด้วย ถ้ารถเสียวันหนึ่งก็สูญเสียรายได้อย่างน้อยเจ็ดหรือแปดพันบาท ดังนั้น งานบริการสำคัญต้องทำทันที”
       
       “สำหรับสิ่งที่ได้จากพ่อ คือทุกอย่างที่ทำอยู่ มาจากการดูตัวย่างที่พ่อทำ ทั้งความน่าเชื่อถือที่ต้องมี เรื่องความรวดเร็ว พ่อสอนว่า ทุกงานที่เข้ามาต้องกล้ารับ อย่าปฏิเสธ เราต้องเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้ ทุกปัญหามีทางออก สามารถแก้ไขได้ เมื่อเรามีโอกาส ไม่ให้ทิ้งโอกาส ทำได้ห้าสิบหรือร้อยเปอร์เซ็นค่อยดูกันอีกที อย่ากลัวปัญหา” อัญญ์ชิสา กล่าวทิ้งท้าย 

“ชูไก”ปักธงสานต่อธุรกิจครอบครัว รุกธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก ตั้งเป้าเติบโตยั่งยืน หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยพัฒนาประเทศ

 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและซ่อมแซมเครื่องจักรกลหนัก อะไหล่ และการให้บริการเคลื่อนย้ายวัสดุ หรืออุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถเครน XCMG จากประเทศจีน อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย 
ที่มาของข่าว: MGR Online

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.