"กกร." จับตาส่งออก 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ หวั่นฉุดจีดีพีหลุดกรอบ 3.3-3.5% หลังส่งออกเดือน ต.ค. ติดลบ 4% คาดปีหน้าจีดีพีขยายตัว 3.5-4%
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า กกร.มั่นใจว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ในปี 2559 จะขยายตัวได้ 3.3-3.5% ขณะที่การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ติดลบ 1-0% แม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2559 จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและต่างประเทศ แต่ยังมีแรงกระตุ้นจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 มีการเบิกจ่ายงบประมาณรวม 4.22 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5%
"ประเมินว่าจีดีพีปี 59 มีโอกาสหลุดต่ำกว่ากรอบที่มองไว้ 3.3-3.5% เนื่องจากในช่วงปลายปีเศรษฐกิจไทยมีแรงกระทบทั้งจากภายในและต่างประเทศ การส่งออกในเดือนตุลาคมที่ติดลบ 4% นอกจากนี้ประชาชนยังชะลอการใช้จ่าย จากการไว้อาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะสามารถเกาะกรอบล่างได้ที่ระดับ 3.3% ผลจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช้อปช่วยชาติ และท่องเที่ยวหักลดหย่อนภาษี”นายอิสระ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการต่างๆเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น มาตรการโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับจ่ายเงินแก่กลุ่มคนจนที่ไม่ใช่เกษตรกร มาตรกรลดหย่อยภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว โดยให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว มาหักลดหย่อยภาษีได้ 30,000 บาท มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าและลดค่าธรรมเนียมวีซ่า ที่ช่องทางอนุญาตจองด่านตรวจคนเข้าเมือง และมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นการใช้จ่าย หรือ ช้อปช่วยชาติ หากรวมมาตรการต่างๆจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 30,000-40,000 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ให้มีความเข้มแข็งและสามารถรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในอนาคตได้ในช่วงเดือนมกราคม 2560 รัฐบาลจะออกพันธบัตรวงเงิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการระดมทุนจากสภาพคล่องที่มีอยู่ภายในประเทศเพื่อนำวงเงินทีได้ไปใช้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่มจังหสัด กลุ่มละ 5,000-6,000 ล้านบาท เพื่อให้กลุ่มจังหวัดนำไปใช้โครงการพัฒนาเศรษฐฏิจและสังคมในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2560 คาดช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2560 เพิ่ม 0.5%
ในปี 2560 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.5-4% ขณะที่การส่งออกจะขยายตัวได้ 0-2% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ยังมีความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลก ทั้งแนวนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ โดยเฉพาะการทบทวนกรอบการค้าการลงทุนกับประเทศต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าการลบงทุนของโลก แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ภายใต้มุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากนโยบายการคลังที่ผ่อนคลายของสหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงทางการเมืองในภูมิภาคยุโรป โดยในปี 2560 หลายประเทศในยุโรป เช่น เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี จะมีการเลือกตั้งทั่วโลก ซึ่งต้องติดตามโฉมหน้าของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะสร้างความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจยุโรป ปัญหาภาคธนาคาร และค่าเงินยูโร
“มองว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยยังมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการของภาครัฐ ซึ่งจะสนับสนุนความเชื่อมั่นและทำให้ภาคเอกชนมีการลงทุนตาม รวมทั้งการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยหนุนมูลค่าการส่งออกในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและผลักดันการส่งออกในภาพรวมให้สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้”นายอิสระ กล่าว