สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

‘ประยุทธ์’จี้อุตฯรื้อโครงสร้าง เล็งดึง กพร.ออก หลังการทำเหมืองแร่ในไทยลดลง
28/11/2016
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
“ประยุทธ์” จี้กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งปรับโครงสร้าง รับอุตสาหกรรม 4.0 หลัง “สมคิด” ไฟเขียวในหลักการแล้วให้ทุกหน่วยงานทำภารกิจหน้าที่เสนอ พร้อมตรวจงานภายใน พ.ย.นี้ ยันใช้ชื่อ “กระทรวงอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ” ตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมขึ้นมารองรับขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย



นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกระทรวง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ปรับเปลี่ยนการดำเนินให้เป็นหน่วยงานแรกที่จะรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไร หลังจากที่แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม 20 (2560-2579) ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน จากเดิมที่จะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งได้มีการบรรจุการปรับโครงสร้างของกระทรวงฯอยู่ในแผนดังกล่าวด้วย

สำหรับในรายละเอียดของโครงสร้างดังกล่าว ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการจัดทำภารกิจหรืออำนาจหน้าที่ตามโครงสร้างใหม่ให้แล้วเสร็จ เพื่อพร้อมที่จะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาได้ทันที ซึ่งในแต่ละกรม หรือสำนักงาน ก็จะมีหน้าที่และภารกิจที่แตกต่างกันไป

แหล่งข่าวจากระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำหรับการปรับโครงสร้างของกระทรวงฯ ได้ผ่านการพิจารณาของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้มาดูแลเรื่องนี้แล้ว 2 ครั้ง และได้เห็นชอบโครงสร้างดังกล่าวไปแล้ว โดยจะเปลี่ยนชื่อกระทรวงใหม่ เป็นกระทรวงอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนหน่วยงานและบทบาทในการทำงานในแต่ละสังกัดใหม่

โดยหน่วยงานส่วนกลางอย่างสำนักงานปลัดกระทรวง จากเดิมมีหน้าที่ส่งเสริมพัฒนา จะปรับบทบาทให้หน่วยงานในภูมิภาคทำหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติ(ส่งเสริมและพัฒนา) ที่จะมีสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และสำนักงานอุตสาหกรรมภาค ขึ้นมาดูแลแทน

ขณะที่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานภายในและสถาบันเครือข่ายต่างๆ การดำเนินงานยังไม่ครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย จะมีการปรับหน่วยงานภายในอย่างสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปลี่ยนมาเป็นสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ(สอช.) เพื่อเป็นผู้กำหนดนโยบาย โดยจะมีการจัดทำพ.ร.บ.พัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อมารองรับการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา และการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ(สพอ.) เพื่อมาบริหารกองทุน อีกทั้ง จะยกระดับสถาบันอาหาร ขึ้นมาเป็นสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งชาติ โดยจะออกพ.ร.บ.พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งชาติ ขึ้นมารองรับ

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการนั้น เนื่องจากปัจจุบันการพัฒนาผู้ประกอบการมีรูปแบบที่คล้ายกัน จำเป็นต้องขยายกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาผู้ประกอบการและพัฒนาผู้ประกอบการตามวงจรชีวิต ทั้งในส่วนของการเริ่มธุรกิจ การสนับสนุนกิจการที่แข็งแรงแล้ว และดูแลผู้ประกอบการที่ประสบปัญหา ที่จะมีการปรับเปลี่ยนกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) ในปัจจุบัน เปลี่ยนมาเป็นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ทำงานควบคู่กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และตั้งสำนักงานส่งเสริมผลิตภาพแห่งชาติขึ้นมา โดยจะมีพ.ร.บ.ส่งเสริมผลิตภาพแห่งชาติ ขึ้นมารองรับ

ส่วนการส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบการ ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานที่ให้การอนุญาตและกำกับดูแล อย่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) จะปรับบทบาทมาเป็นหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในการประกอบการ การให้บริการ ณ จุดเดียว และส่งเสริมการดำเนินงานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมกับเปลี่ยนชื่อของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) มาเป็นสำนักงานคณะกรรมการอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อให้ครอบคลุมการกำกับดูแลการนำพืชอย่างอ้อย มันสำปะหลัง ไปใช้ต่อยอดในอุตสาหกรรมไบโอชีวภาพ
สำหรับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่ว่า จะต้องมีหน่วยงานนี้อยู่ในโครงสร้างของกระทรวงฯที่ปรับใหม่หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าในอนาคตต่อไปบทบาทในการทำเหมืองแร่ของประเทศจะลดลง รวมถึงต้องจัดตั้งสำนักงานมาตรฐานแห่งชาติ ขึ้นมาด้วยหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมี สมอ.ทำหน้าที่คอยกำกับดูแลอยู่แล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,211 วันที่ 20 – 23 พฤศจิกายน 2559
ที่มาของข่าว: ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.