กรมส่งเสริมสหกรณ์ตั้งศูนย์กลางบริหารเครื่องจักรกลระดับชุมชน 54 แห่ง ให้บริการพื้นที่นาข้าว 1.4 แสนไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 3 แสนไร่ลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวให้เกษตรกรสมาชิกไร่ละ 100-180 บาท ได้ผลผลิตคุณภาพสูง
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และชมรมเครื่องจักรกลทางการเกษตรซึ่งเป็นภาคเอกชน เร่งบูรณาการขับเคลื่อนโครงการศูนย์กลางบริหารเครื่องจักรกลการเกษตรระดับชุมชน โดยมุ่งส่งเสริมและผลักดันให้สหกรณ์ จำนวน 54 แห่ง เป็นผู้บริหารจัดการให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่สมาชิกในราคาที่เป็นธรรมตามแนวทางประชารัฐ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งในปี 2560 มีเป้าหมาย ให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรแก่พื้นที่ทำนา 140,000 ไร่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 300,000 ไร่ คาดว่า จะสามารถลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้เกษตรกรสมาชิกได้ไม่น้อยกว่าไร่ละ 100 บาท และลดต้นทุนค่าสีข้าวโพดได้ ประมาณ 180 บาท/ไร่ ทำให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงขึ้นด้วย
เบื้องต้นได้มอบหมายให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสำรวจความต้องการของสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร จากนั้นได้ประสานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)เพื่อจัดทำโครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งจัดทำฐานข้อมูลสมาชิกและประมาณการผลผลิตข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พร้อมจัดประชุมวางแผนเพื่อให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรโดยสหกรณ์จะกำหนดอัตราค่าบริการและวิธีการให้บริการอย่างเหมาะสมและยุติธรรมที่สุด
"เนื่องจากค่าเก็บเกี่ยวข้าวราคาค่อนข้างแพงอยู่ที่ 450-500 บาท/ไร่ กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้เร่งหารือกับสหกรณ์ 10 แห่ง และชมรมเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งมีรถเกี่ยวข้าวอยู่ในความดูแลกว่า 10,000 คัน เพื่อร่วมวางแผนบริหารจัดการให้บริการรถเกี่ยวนวดข้าวให้เพียงพอและสอดคล้องกับความต้องการของสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งกำลังทยอยเก็บเกี่ยวข้าวป้อนตลาด เพื่อกำหนดค่าเกี่ยวนวดข้าวลง อย่างไรก็ตาม เกษตรกรไม่ควรรีบเร่งเก็บเกี่ยวข้าวเขียว ควรเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือมีเปอร์เซ็นต์ความสุกเหมาะสม เพื่อให้ได้ข้าวเปลือกที่มีคุณภาพดี จะได้ไม่ถูกตัดราคารับซื้อ" อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าว
นายวิณะโรจน์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งเสริมให้สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด จังหวัดนครราชสีมา เป็นศูนย์กลางบริหารเครื่องจักรกลการเกษตรนำร่อง ซึ่งสหกรณ์ดังกล่าวได้ให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรแก่สมาชิกแล้ว 915 ราย และสามารถลดต้นทุนให้เกษตรกรได้กว่า 1.16 ล้านบาท เป็นการให้บริการเก็บเกี่ยวข้าว 333 ราย พื้นที่ 2,927 ไร่ ลดต้นทุนได้ 150 บาท/ไร่ คิดเป็นมูลค่า 619,800 บาท และให้บริการสีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 582 ราย ปริมาณการสี 2,737 ตัน ลดต้นทุนได้ต้นละ 200 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 547,400 บาท อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมสหกรณ์จะเร่งสร้างศูนย์กลางบริหารเครื่องจักรกลการเกษตรระดับชุมชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้บริการเกษตรสมาชิกสหกรณ์อย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและทำให้มีรายได้สูงขึ้น