นายสุวรรณ บูราพรนุสรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดเผยว่า จากปัญหาการขาดแรงงานในภาคการเกษตร ส.ป.ก. โดยกลุ่มวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร สำนักพัฒนาพื้นที่ปฏิรูปที่ดินได้พัฒนาเครื่องหยอดข้าวในนาน้ำตมเพื่อให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้นำไปใช้เพื่อลดต้นทุนในการผลิต หลังจากที่ได้มีการนำไปทดสอบจริงในพื้นที่ แม้เกษตรกรจะมีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีกลไกบางอย่างที่ยังต้องปรับปรุงอยู่บ้าง ส.ป.ก.จึงได้ขอทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สวก. เพื่อนำมาพัฒนาเครื่องหยอดข้าวในนาน้ำตมของส.ป.ก. ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ สวก. ได้อนุมัติทุนวิจัยจำนวนเงิน 1,200,000 บาทให้แล้ว
ในเบื้องต้นกำหนดเงื่อนไขในการวิจัยว่า จะต้องเป็นเครื่องมือขนาดเล็ก กลไกการขับเคลื่อนไม่ซับซ้อน ราคาไม่แพง เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินสามารถเข้าถึงหรือนำไปสร้างเองได้ หรือชุมชนใดมีเกษตรกรที่มีทักษะทางช่าง ส.ป.ก.ก็สามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่นำความรู้ไปถ่ายทอดในเรื่องการผลิตเครื่องหยอดข้าว เพื่อให้เกษตรกรสามารถดำเนินการผลิตกันเองในชุมชน เพราะเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินไม่ได้เป็นเกษตรกรที่มีฐานะดี ดังนั้น การที่เกษตรกรสามารถผลิตเครื่องจักรกลใช้เอง นอกจากจะช่วยในการลดต้นทุนการผลิตแล้ว ยังช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรในการเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรอีกด้วย
สำหรับเครื่องหยอดข้าวต้นแบบ ส.ป.ก. มีต้นทุนการผลิตประมาณ 20,000 บาทมีประสิทธิภาพช่วยลดการใช้เมล็ดพันธุ์ได้ จากเดิมหากเกษตรกรใช้วิธีการหว่านต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ แต่หากใช้เครื่องหยอดข้าวจะใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 8-10 กิโลกรัมต่อไร่ เพราะฉะนั้นจะลดต้นทุนการใช้เมล็ดพันธุ์ไปได้ประมาณร้อยละ 60 คิดเป็นต้นทุนประมาณ 300-400 บาท/ไร่ นอกจากเครื่องหยอดข้าวในนาน้ำตมแล้ว ส.ป.ก. ยังได้พัฒนาเครื่องหยอดข้าวในนาแห้ง และเครื่องย่อยกิ่งไม้เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรด้วย