นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่ายภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) พร้อมผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศทั้ง 14 แห่งทั่วโลก อาทิ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว โตเกียว ลอสแองเจอลิส ปารีส โซล ไต้หวัน และมุมไบ ว่า ขณะนี้บรรยากาศการลงทุนได้ปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากปัจจัยของเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ความไม่แน่นอนเริ่มคลี่คลาย และปัจจัยภายนอกที่มีสัญญาณเชิงบวกต่อการลงทุนในอาเซียน ซึ่งล่าสุดธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ เจบิก ได้แก้ไขกฎระเบียบเพื่อรองรับความเสี่ยงในการลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับไทย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย หลังโดนจีนแย่งตลาดไปพอสมควร ดังนั้นจึงมอบหมายให้บีโอไอเร่งปรับกระบวนการทำงานเร่งจัดทำแผนเพิ่มกำลังบุคลากรที่ทำหน้าที่ชักจูงการลงทุนเสนอต่อรัฐบาลภายใน 1 เดือน และกำชับเรื่องการจัดงานแสดงความพร้อมของไทยในการปรับโฉมอุตสาหกรรมช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ งานประจำปีที่จะมีนักลงทุนจากทั่วโลกเข้าร่วม เพื่อเร่งดึงดูดลงทุนจากต่างประเทศ ให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการยกระดับประเทศไทย และใช้ไทยเป็นฐานไปสู่ประเทศอื่นในอาเซียน และจีน
“ช่วงที่ผ่านมาไทยมีปัญหาจริงแต่ไม่ควรมองย้อนไปข้างหลัง ควรมองไปข้างหน้าที่สว่าง เพราะบรรยากาศต่างๆพร้อมแล้ว หลังการเมืองชัดเจน ความเชื่อมั่นจะเพิ่มขึ้น และกำลังจะมีระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี มีกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกรณีตีความภาษีระหว่างบีโอไอและกระทรวงการคลังจบไปแล้ว ไม่มีนักลงทุนญี่ปุ่นสอบถามเข้ามา เพราะทุกอย่างชัดเจนแล้ว”นายสมคิดกล่าว
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า จากบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้น ทำให้บีโอไอตัดสินใจปรับเป้าขอรับส่งเสริมการลงทุนปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านบาท จาก 4.5 แสนล้านบาท เป็น 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายกว่า 50% โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้ว 853 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 320,720 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเม็ดเงินลงทุนจริงในปีนี้กว่า 5 – 6 แสนล้านบาท โดยบีโอไอจะมีการเร่งรัดนักลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ไปแล้ว ให้เกิดการลงทุนจริง โดยเฉพาะคำขอที่ได้รับส่งเสริมในปี 2557 อีก 400 โครงการ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท แต่ยังไม่ลงทุนให้เกิดการลงทุนจริงภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกของปีมีการลงทุนจริงแล้ว 2 แสนล้านบาท