เอ็นเอช อินดัสเทรียลฯ เตรียมทวงบัลลังก์ผู้นำตลาดเครื่องจักรกลทางการเกษตรในเมืองไทย จ่อเปิดตัวเครื่องจักรทางการเกษตรรุ่นใหม่ล่าสุดในงาน SIMA ASEAN Thailand 2016 หลังพบแนวโน้มความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรในไทยเพิ่มขึ้นจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานคนรุ่นใหม่ในภาคการเกษตร
มร. มาร์ค บรินน์ ผู้บริหารระดับสูง บริษัท ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียล เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะผู้ผลิตเครื่องจักรทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูงระดับโลก ภายใต้แบรนด์ นิว ฮอลแลนด์ (New Holland) และเคส ไอเอช (Case IH) เปิดเผยถึงแนวโน้มจำนวนประชากรโลกในปี 2573 จะเพิ่มขึ้นถึง 8.3 พันล้านคน และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึง 9.3 พันล้านในปี 2593 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลก จะส่งผลให้ปริมาณความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น ดังนั้นเกษตรกรต้องเพิ่มปริมาณผลผลิตทางการเกษตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาในเรื่องของทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น พื้นที่ทางการเกษตร ทรัพยากรน้ำ และองค์ความรู้ทางด้านการเกษตร รวมทั้งในอนาคตอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานคนรุ่นใหม่ในภาคการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรต้องหันมาพึ่งพาเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ทันสมัยมากขึ้น
สำหรับตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากไทยมีปริมาณการซื้อขายเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่มีขนาดใหญ่ถึง 90% ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นซีเอ็นเอชจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ในไทยในระยะยาว โดยเฉพาะรถแทรกเตอร์รุ่นใหญ่ เครื่องอัดใบอ้อย และรถตัดอ้อย เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของเกษตรกรไทยที่มีความสามารถในการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองกับความท้าทายของเกษตรกรรมในยุคปัจจุบัน
มร. มาร์ค กล่าวต่อว่า ซีเอ็นเอช ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน SIMA ASEAN Thailand 2016 ในฐานะผู้สนับสนุนระดับแพลทินัมสปอนเซอร์ จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ทั้งภายในฮอลล์และลานกลางแจ้ง โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการในการทำเกษตรกรรมสำหรับเกษตรกรที่อยู่ในเขตภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มั่นใจว่างาน SIMA ASEAN Thailand 2016 จะเป็นงานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลุ่มเกษตรกรที่จะได้เรียนรู้ เทคโนโลยีต่างๆ
นอกจากนี้ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียลฯ ได้ตัดสินใจเลือกกรุงเทพเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ดูแลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทีมงานที่มีความสามารถพร้อมที่จะให้บริการและคำแนะนำแก่ลูกค้า รวมทั้งยังเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจการเกษตร นอกจากนี้ยังจัดอบรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ลูกค้า ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการลดต้นทุนโดยการทำเกษตรกรรมอย่างมีประสิทธิภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ประสบปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้เกิดความยากลำบากในการสร้างผลผลิตที่ดี