สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี สร้างสวนไม้ผลต้นแบบใช้เครื่องจักร
14/07/2016
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล


นายชลธี นุ่มหนู รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี เปิดเผยว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรและค่าแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่ออาชีพการทำสวนไม้ผลของเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีพื้นที่สวนขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ จำเป็นต้องอาศัยแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า กัมพูชา และลาว แทบทั้งสิ้น เนื่องจากหาง่ายและมีค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่าแรงงานคนไทย แต่ในอนาคตหากประเทศเหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมา แรงงานต่างด้าวจะกลับไปทำงานประเทศของตนเอง จะส่งผลกระทบต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการทำสวนไม้ผลทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นการนำเครื่องจักรกลการเกษตรและเครื่องทุนแรงมาใช้ทดแทน แรงงานคนในประเทศจำเป็นต้องได้รบการพัมนาเหมือนเช่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอิสราเอล เป็นต้น แต่ปัญหาสำคัญของการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในสวนไม้ผล คือ การจัดวางโครงสร้างของสวนให้มีระยะปลูกระหว่างแถวและระยห่างของต้นให้เครื่องจักรกลเข้าไปทำงานได้อย่างสะดวกรวมถึงการจัดโครงสร้างของต้นให้มีขนาดของทรงพุ่มและรูปแบบทรงพุ่มที่เหมาะสมต่อการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร โดยที่ไม้ผลยังสามารถให้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพดีเท่าเทียมหรือสูงเก่าการใช้แรงงานคน

อย่างไรก็ตาม งานศึกษาวิจัยและพัฒนาการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในสวนไม้ผลของไทยมีน้อยมาก โดยเฉพาะไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ และลำไย ฉะนั้นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี จะทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมจันทบุรี สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรมโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี รับผิดชอบเรื่องการจัดวางโครงสร้างของสวนและทรงพุ่มของไม้ผลเศรษฐกิจ 3 ชนิด คือ ทุเรียน มังคุด และเงาะ ซึ่งมีลักษณะทรงพุ่ม และการออกดอกติดผลโดยธรรมชาติที่แตกต่างกันด้วยการกำหนดระยะปลูกและขนาดทรงพุ่มที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับการเข้าทำงานของรถแทรกเตอร์ขนาด 36-40 แรงม้า ในขณะเดียวกันศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมจันทบุรีจะรับผิดชอบวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรเป็นเครื่องพ่วงท้ายแทรกเตอร์ ขนาด 36-40 แรงม้า ประกอบด้วย เครื่องตัดหญ้า เครื่องพ่นสารเคมี เครื่องตัดแต่งกิ่ง และเครื่องเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น

"แม้งานนี้ต้องใช้ระยะเวลาหลายปี แต่ในระหว่างการดำเนินงานจะเกิดการเรียนรู้ของเกษตรกรที่เข้ามาเยี่ยมชม และเกิดการพัฒนาของเครื่องจักรกลการเกษตรที่เหมาะสมสำหรับใช้งานในสวนไม้ผลที่มีระยะปลูกและรูปแบบทรงพุ่มแบบต่างๆ จนนำไปสู่ต้นแบบของแปลงไม้ผลที่เหมาะสมต่อการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและได้เครื่องจักรกลการเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับใช้ในสวนไม้ผลต่อไป" นายชลธี กล่าวทิ้งท้าย
ที่มาของข่าว: อาร์ วาย ที ไนน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.