นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการที่ สสว. ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะนายกรัฐมนตรี ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กสหพันธรัฐรัสเซีย อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค. 2559 ในโอกาสนี้ สสว. ได้มีการลงนาม MOU ความร่วมมือด้าน SME กับหน่วยงาน All-Russia Public Organization หรือ Business Russiaโดยมีนายกรัฐมนตรีจากทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว
โดย Business Russia เป็นหน่วยงานที่มีสถานะเหมือนสหภาพผู้ประกอบการภาคเอกชนและ SMEs ของรัสเซีย ที่ครอบคลุมภาคเอกชน SMEs มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ มีบทบาทสำคัญต่อภาคเอกชน SMEs รัสเซียในการสนับสนุนกิจกรรมทางการค้าต่างๆ เป็นกระบอกเสียงของ SMEs กับภาครัฐ เสนอแนะแนวทางในการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ และช่วยปกป้องผลประโยชน์ทางด้านกฎหมายให้กับภาคธุรกิจ และเมื่อเดือนม.ค. 2559 ที่ผ่านมาBusiness Russia ได้ตั้งสำนักงาน Russian-Thai Trade House ขึ้นทั้งที่ กรุงมอสโกและที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานการทำธุรกิจระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเร่งรัดให้ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมทาง สสว. ได้มีการหารือถึง Action Plan และ กิจกรรมต่างๆ กับ มร. อเล็กเซ่ เรพิค ประธาน Russia Public Organization และทีมงาน โดยไทยได้เชิญให้รัสเซียนำกลุ่มนักธุรกิจมาร่วมทำ Business Matching ที่กรุงเทพฯ ซึ่ง Business Russia ตอบรับพร้อมสนับสนุน และคาดว่าครั้งแรกจะสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ และจะสามารถนำกลุ่มธุรกิจมาเข้าร่วมเจรจาธุรกิจได้ราว 20 บริษัท
ทางด้าน Business Russia สนับสนุนให้ไทยรวบรวมผู้ประกอบการโดยเน้นกลุ่ม ที่ไทยมีศักยภาพและเป็นที่นิยมของคนรัสเซีย โดยอาจจะเริ่มที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของไทยเป็นที่นิยมมาก ร่วมกันมาจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยในกรุงมอสโก และพื้นที่ต่างๆ ในรัสเซีย โดยที่ผ่านมาประเทศจีนและเวียดนาม ก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในรูปแบบนี้ขึ้นแล้วที่กรุงมอสโก และประสบความสำเร็จอย่างมากต่อความนิยมของชาวรัสเซีย