สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เตือนเอกชนรับความผันผวน ธปท.ใช้นโยบายการเงินตอบโจทย์ประเทศไทย
03/05/2016
ข่าวเศรษฐกิจ
“วิรไท” ระบุจะใช้นโยบายการเงินไม่ตามก้นธนาคารกลางหลักๆของโลกชี้ดอกเบี้ยติดลบไม่ช่วยให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเสมอไป เตือนทำนโยบายเศรษฐกิจการเงินต้องคำนึงเสถียรภาพด้วย อย่าต้องไปนั่งแก้ปัญหาในอนาคตแนะเอกชนลงทุนวันนี้ ดอกเบี้ยแบงก์พาณิชย์ต่ำมากแล้ว



นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายของไทยและค่าเงินบาทจะยังคงเกิดขึ้นไปอีกระยะหนึ่งตามปัจจัยการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน และความผันผวนของตลาดการเงินโลก ทำให้นักลงทุน นักธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินบาทต้องติดตามสถานการณ์ และมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี ปิดความเสี่ยงลดการ ขาดทุน เนื่องจากค่าเงินบาทในขณะนี้ยังสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วทั้ง 2 ทาง โดยปัจจัยหลักมาจากการดำเนินนโยบายทางการเงินใหม่ๆของธนาคารกลางประเทศหลักๆของโลก สภาพคล่องที่มีสูงในโลกทำให้เกิดพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนสูง และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศจีน ซึ่งส่วนนี้จะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี ซึ่งทุกปัจจัยกระทบกับการค้าการลงทุนระหว่างประเทศให้เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

สำหรับเงินทุนเคลื่อนย้าย แม้ว่าจะเห็นการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศเข้ามาในไทยต่อเนื่อง แต่มองว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นๆและสามารถไหลออกได้เร็วเช่นกันเมื่อมีปัจจัยใหม่ๆจากต่างประเทศเข้ามากระทบ ซึ่งในส่วนของการลงทุนโดยตรง แม้ว่าจะมีการลงทุนใหม่ หรือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่ในภาวะที่การลงทุนซบเซาทั่วโลก เงินทุนโดยตรงที่เข้ามาในไทยก็จะน้อยกว่าช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน ขณะที่เงินทุนที่ล้นอยู่ทั่วโลกและกำลังวิ่งแสวงหาผลตอบแทนที่สูง จะเป็นตัวที่จะมีผลกระทบต่อการไหลเข้าไหลออกของเงินทุนมากกว่า

“ธปท.จะดูแลค่าเงินและความผันผวนของค่าเงินไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยดูแลให้สอดคล้องและแข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่ง ซึ่งค่าเงินบาทในขณะนี้มีความผันผวนอยู่ในระดับกลางๆของภูมิภาคนี้ และตัวราคาก็ไม่ได้อ่อนสุดโต่ง หรือแข็งสุดโต่ง ซึ่งยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ นอกจากนั้น การที่เรามีทุนสำรองทางการระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง 3 เท่า เมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศ และปีนี้คาดว่าจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับที่สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น สัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐของนักลงทุนต่างชาติไม่สูงอยู่ที่ 8% สัดส่วนการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นที่ลดลงเหลือไม่เกิน 30% ของมูลค่าตลาดรวม ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และการลงทุนใหม่ที่ยังไม่มาก ช่วยให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนในโลกที่ผันผวนไม่มากเท่าหลายประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะทุนสำรองและดุลบัญชีเดินสะพัดที่เหมือนเป็นกันชนให้เรา”

ผู้ว่าการ ธปท.ยังได้กล่าวถึงนโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยด้วยว่า ในช่วงที่ธนาคารกลางหลายๆ ประเทศมีการปรับนโยบายการเงิน อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบมากขึ้น หรือการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบนั้น นโยบายการเงินของ ธปท.ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ต้องทำตามใคร เพราะนโยบายการเงินควรที่จะตอบโจทย์ของประเทศตัวเองและเศรษฐกิจตัวเองเป็นหลัก นอกจากนั้น นโยบายการเงินเป็นนโยบายที่ต้องมองไปข้างหน้า แต่หากจะใช้นโยบายการเงินในการตอบโจทย์เศรษฐกิจในระยะสั้นๆมากเกินไปถือว่าไม่ดี เพราะอาจจะเป็นการสะสมความเปราะบางให้กับระบบการเงินและเศรษฐกิจโดยรวมได้

“ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ขณะที่อาจจะมีปัจจัยอื่นๆมากระทบ เช่น โรคระบาด หรือความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ การมีพื้นที่เก็บกระสุนของนโยบายการเงินไว้ ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนั้น หากมองไปยังประเทศที่ใช้การอัดฉีดสภาพคล่องมากๆ หรือใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเสมอไป เช่นกรณีญี่ปุ่นที่ยิ่งอัดฉีดสภาพคล่องค่าเงินเยน ญี่ปุ่นกลับแข็งค่าขึ้น หรือกรณีการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งแทนที่จะทำให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น กลับทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในอนาคต กลายเป็นยิ่งออมมากขึ้นไม่ยอมใช้จ่ายลงทุน ดังนั้น การดำเนินนโยบายการเงินในยุคใหม่นี้ต้องมองผลข้างเคียงอื่นๆด้วย”

นายวิรไทกล่าวต่อว่า ในขณะนี้การใช้นโยบายการคลังก็ทำหน้าที่ได้ดี และตามประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ ธปท.คาดว่าจะเติบโต 3.1% ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นการฟื้นตัวอยู่ ทั้งนี้ นโยบายที่น่าเป็นห่วงคือนโยบายที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านเสถียรภาพในอนาคต ไม่ใช่ว่าอีก 3 ปีข้างหน้าเราต้องมานั่งแก้ไขปัญหาจากนโยบายที่เราทำวันนี้ หรือเป็นนโยบายที่ไปเร่งสร้างฟองสบู่ ซึ่งเท่าที่มองในขณะนี้ยังไม่เห็นนโยบายแบบนี้ออกมา ส่วนฟองสบู่นั้น อาจจะเห็นฟองสบู่เล็กๆในบางภาคเศรษฐกิจที่มีการแสวงหาผลตอบแทนสูงๆอยู่บ้าง แต่เป็นสถานการณ์ที่ยังไม่น่าเป็นห่วง

“หลายคนอยากรู้ว่า อัตราดอกเบี้ยซึ่งธนาคารพาณิชย์เริ่มปรับลดอัตราเงินกู้ลง เป็นดอกเบี้ยที่ต่ำสุดหรือยัง ส่วนนี้คงตอบไม่ได้ แต่ที่รู้คือ เศรษฐกิจไทยไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง มีเงินเพียงพอในการกู้ยืมและเป็นเงินที่ต้นทุนต่ำมาก ยิ่งเป็นการกู้ระยะยาว อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ดังนั้น หากภาคเอกชนต้องการลงทุนเพื่อธุรกิจในอนาคต เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน ในต้นทุนทางการเงินในระดับต่ำ”.
ที่มาของข่าว: ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.