นายญาณพล ลิมปนะโชคชัย เลขาธิการกลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในอดีตไทยส่งออกข้าวเบอร์หนึ่งของโลก ปัจจุบันด้วยปัจจัยรอบด้านทำให้เสียอันดับไปมาก หนึ่งในปัจจัยหลักคือภาคการเกษตรไทยยังประกอบเกษตรกรรมด้วยต้นทุนที่สูง ทั้งค่าปุ๋ย ยา ที่สำคัญคืออัตราค่าแรงสูงขึ้น และมากไปกว่านั้นคือการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ยังน้อย และเกษตรกรยังขาดองค์ความรู้ในการปลูกและการลดต้นทุน ดังนั้น การสร้างฐานองค์ความรู้ Know-how พัฒนาคุณภาพและผลิตภาพ จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาขับเคลื่อนภาคการเกษตร จึงอยากฝากไปถึงภาครัฐให้ช่วยผลักดันนวัตกรรมให้มากขึ้น เช่น พืชที่ให้มูลค่าสูงได้รับความสนใจในขณะนี้ คือ หญ้าเนเปียร์คล้ายพืชตระกูลอ้อย ใช้ในวงการภาคปศุสัตว์ไม่น้อย ตรงนี้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีสามารถผลักดันเพื่อตอบโจทย์การผลิตให้เกิดเป็นมูลค่าเพิ่มได้อีกมากทั้งส่งออกและแปรเป็นพลังงานดังนั้น การเปิดเวทีเครื่องจักรกลเกษตรจากทั่วทุกมุมโลกจะช่วยให้ทุกภาคส่วนเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งยังช่วยยกระดับการเกษตรไทย

ด้านนายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า งานนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยผลักดันและเพิ่มศักยภาพให้เกษตกรไทยมีโอกาสได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรมที่สามารถยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเกษตรของอาเซียนให้ทัดเทียมระดับสากล ซึ่งทางกระทรวงมีแนวทางขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทย 4 ด้าน คือ การลดต้นทุนการเพิ่มผลผลิต การบริหารจัดการ และการตลาด โดยใช้กลไก "ซิงเกิลคอมมานด์" คือการนำผลการดำเนินงานบูรณาการเข้าสู่ระบบเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อการปฏิรูปภาคเกษตรของไทยสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในรูปแบบประชารัฐ ซึ่งประสานระหว่างรัฐ เอกชน เกษตรกร 

พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมการใช้ปุ๋ยชีวภาพในพื้นที่ที่มีความพร้อม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่ดีให้แก่เกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการผลิตเข้าสู่มาตรฐานสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค และสร้างโอกาสทางการตลาดให้มากขึ้นในระดับสากล โดยมีผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส นายกสมาคมวิศวกรรมเกษตรแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการกองส่งเสริมโครงการพระราชดำริ การจัดการพื้นที่และวิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า งานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 450 บริษัท มีนักธุรกิจเกษตรเข้าชมงานเจรจาธุรกิจกว่า 25,000 คน จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก จะมีการรวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพต่ออุตสาหกรรมการเกษตรของไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อก้าวสู่การแข่งขันในตลาดเกษตรโลกในอนาคต

นายลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติเพื่อธุรกิจการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนจัดต่อเนื่องเป็นปีที่2 ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน 2559 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็คเมืองทองธานี