ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(อีไอซี) ได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2559 โดยระบุว่าประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะเติบโต 2.5% โดยมีแรงสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายใน ทั้งจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีการตั้งงบประมาณลงทุนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20 % จากปี 2558 และการลงทุนของภาคเอกชนที่จะกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากหดตัวในปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ มาตรการเร่งรัดโครงการ PPP และ การเพิ่มแรงจูงใจในการลงทุนผ่านสิทธิประโยชน์จาก BOI เป็นต้น
ด้านด้านการบริโภคยังคงฟื้นตัวช้าโดยมีแรงกดดันจากรายได้เกษตรกรที่ยังคงตกต่ำ อีกทั้ง ยังต้องเผชิญกับภัยแล้งที่จะส่งผลต่อปริมาณผลผลิตในปี 2559 และหนี้ครัวเรือนในระดับสูง โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยให้การบริโภคในหมวดสินค้าไม่คงทนและความมั่นใจผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น แต่น่าจะมีผลแค่ในระยะสั้น ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นถึง 9% ซึ่งนำโดยนักท่องเที่ยวจีน
ทั้งนี้ อีกปัจจัยลบจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจะยังคงฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจไทย แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงมีความเปราะบางสูง โดยการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้การค้าระหว่างประเทศยังคงไม่ดีขึ้น อีกทั้ง ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในปีนี้ ประกอบกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังคงเรื้อรัง ปัจจัยข้างต้นเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของภาคการส่งออกไทย
นอกจากนี้ความเสี่ยงเงินทุนไหลออกซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาจากในปี 2558 น่าจะมีจำกัด หากการปรับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอีไอซีมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% เพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเช่นเดียวกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาคไปอยู่ที่ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2559