สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

‘วิรไท’เปิดแผน ธปท.ปีวอก ชู 3 ด้านดันเศรษฐกิจไทยแกร่
22/01/2016
ข่าวเศรษฐกิจ
เปิดศักราชปีวอกไม่ทันถึงเดือน! ปรากฏว่าเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญแรงเหวี่ยง แรงท้าทายอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าเงินหยวนของจีน ที่ทำเอาหลายคนสั่นสะเทือนกับการพลิกตัวของยักษ์ใหญ่แดนมังกร 



ไม่เพียงเท่านี้...ยังมีปัญหาใหญ่ในเรื่องราคาน้ำมันดิบ ที่มีแนวโน้มดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จนต่ำสุดในรอบ 12 ปี ทำให้สำนักวิจัยต่างประเทศ คาดว่าอาจลดต่ำลงกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐกันทีเดียว ขณะที่ประเทศมหาอำนาจ ต่างดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน ไปจนถึงการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ที่ยังไม่ทั่วถึงมากนัก“

แบงก์ชาติคาดจีดีพีโต 3.5%

แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 59 นี้ มีโอกาสเติบโตได้ถึง 3.5% แต่ด้วยสารพัดปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะปัจจัยจากเศรษฐกิจโลก จากต่างประเทศ หรือจากในประเทศเอง ที่ควบคุมไม่ได้ จึงอาจทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไม่เป็นไปตามที่คาดหมายก็เป็นไปได้“

อย่างไรก็ตาม “วิรไท สันติประภพ” ผู้ว่าการ ธปท. ประกาศไว้ชัดเจนว่า แม้มีหลายปัจจัยเสี่ยง แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ดีกว่าปีก่อนแน่ แต่ยอมรับว่า ความเสี่ยงจากต่างประเทศ ได้ทำให้ตลาดเงิน ตลาดทุน ผันผวนหลายด้าน ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ที่เห็นชัดเจน คือ กรณีที่จีนออกมาตรการหลายด้าน ทำให้อัตราแลกเปลี่ยน ตลาดทุน ผันผวนทั่วโลก บวกกับเหตุความขัดแย้งทางการเมืองต่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อทุกตลาดทั่วโลก“

เกาะติดตลาดเงินตลาดทุน

ดังนั้น…ธปท.ต้องเฝ้าติดตามต่อไปว่า ปัจจัยเหล่านี้จะกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุนไทยมากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่เห็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรงมีไม่มาก เพราะไทยพึ่งพาเงินจากต่างประเทศน้อยกว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในหลายประเทศ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยยังมีกันชนสำคัญจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูง โดยปี 58 เกินดุล 8% ของจีดีพี จากราคาน้ำมันที่ต่ำ ทำให้ไทยมีกันชนด้านต่างประเทศที่เข้มแข็ง ทำให้แม้จะเกิดภาวะความผันผวนในตลาดโลกและภูมิภาค แต่ผลกระทบต่อไทยก็ไม่รุนแรงมากนัก“

เร่งบริหารงาน 3 ด้าน

ด้วยพื้นฐานที่ว่านี้ทำให้ในปี 59 นี้ แบงก์ชาติวางเป้าหมายหลักในการบริหารงานไว้ 3 ด้านคือ การรักษาเสถียรภาพ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจมหภาค เสถียรภาพสถาบันการเงิน และระบบชำระเงิน ตลอดจนเสถียรภาพทางการเงิน ขณะเดียวกันยังเน้นงานด้านการพัฒนาทั้งระบบสถาบันการเงิน การคุ้มครองผู้บริโภค โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน สุดท้ายคือ ยกระดับองค์กรสู่ความเป็นเลิศ เพื่อประคองให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ รองรับความผันผวนทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้“

การันตี ศก. ไทยแข็งแกร่ง 

ทั้งนี้ มั่นใจว่าแม้ตลาดโลกจะผันผวนมากขึ้น แต่ ธปท.ยังดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทย ให้มีประสิทธิภาพได้ และปัจจุบันเห็นว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับความผันผวนเหล่านี้ได้ เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งไทย แตกต่างกันไป ตามความเข้มแข็งของฐานะการเงิน โดยเห็นว่าไทยยังโชคดีที่มีกันชนด้านต่างประเทศถึง 3 มิติ คือ เกินดุลบัญชีเดินสะพัดระดับสูงมาก มีสัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่ำ มีหนี้ระยะสั้นเพียง 1 ใน 3 ของทุนสำรองระหว่างประเทศ ขณะที่ประเทศอื่นมีสูงกว่าไทยมาก สุดท้าย คือการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในตราสารต่าง ๆ ทั้งพันธบัตร และหุ้น ลดลงมาโดยตลอด หากจะลดอีกก็ไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก“

“ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า จะไม่เผชิญกับความผันผวนในการบริหารความเสี่ยง การจัดการความเสี่ยงด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการ นักลงทุนไทย ต้องให้ความสำคัญ เพียงแต่ไทยอาจได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศอื่น”“

แม้เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และจีดีพีจะโตดีกว่าปี 58 แต่ก็ยังจำกัดอยู่บางภาคเศรษฐกิจ จากปัจจัยบวก คือ การลงทุนภาครัฐ การเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบประมาณ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น มาตรการส่งเสริมการลงทุนของเอกชน และการท่องเที่ยว“

จับตาจีน-เอเชีย

แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีน และเอเชีย ที่อาจต่ำกว่าที่คาด ขณะที่ภาวะภัยแล้งรุนแรงขึ้น ปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำ จนถึงครึ่งปีแรกของปี 59 ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ยังคงติดลบจากราคาน้ำมันที่ลดลง แต่คาดว่ากลับเป็นบวกอีกครั้งจากผลของฐานน้ำมันที่สูงจะหมดไป ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายแล้ว“

ใช้กรอบเงินเฟ้อเป็นเป้าหมายหลัก

นอกจากนี้ ยืนยันว่ายังไม่เปลี่ยนแปลงกรอบนโยบายการเงิน ที่ใช้เป้าหมายเงินเฟ้อเป็นหลัก แต่จะปรับปรุงประสิทธิภาพให้มากขึ้น ซึ่งเห็นว่าปัจจุบันกรอบนโยบายเงินเฟ้อยืดหยุ่น และไม่ค่อยมีความเสี่ยง ทำให้ ธปท.ให้น้ำหนักการดูแลด้านอื่น ๆ ได้มากขึ้น ส่วนเป้าหมายเงินเฟ้อปี 59 นั้น กำลังเข้าสู่ ครม.โดยเน้นเป้าหมายเงินเฟ้อระยะปานกลาง มากกว่าระยะสั้น รวมทั้งพยายามเพิ่มการส่งผ่านนโยบายการเงินไปธนาคารพาณิชย์มากขึ้น เชื่อว่าเงินเฟ้อที่ต่ำขณะนี้ที่เป็นผลจากราคาพลังงานต่ำ คาดว่าเงินเฟ้อค่อย ๆ ปรับเป็นบวกช่วงครึ่งแรกปีหน้า“

ดันงาน 5 ด้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนการผลักดันให้ ธปท.ก้าวขึ้นสู่องค์กรที่มีความเป็นเลิศได้ ต้องทำใน 5 ด้านหลัก คือเพิ่มศักยภาพพนักงานให้มีความรู้รอบ รู้ลึก สร้างเครือข่ายกับภายนอก ด้านเสถียรภาพการเงิน ต้องเห็นความเชื่อมโยงของเสถียรภาพการเงินด้านต่าง ๆ ขณะที่การบริหารเงินสำรองจะเน้นเพิ่มศักยภาพการบริหารสินทรัพย์ประเภทใหม่ ๆ ด้านนโยบายสถาบันการเงิน เน้นผลักดัน พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน เข้าใจการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เตรียมความพร้อมต่อความเสี่ยงจากระบบไอที และโลกไซเบอร์ใหม่ ๆ“

ต่อมาคือ ปรับปรุงกรอบและกลยุทธ์การบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ บริหารความเสี่ยง คัดเลือกระบบห้องค่าเงินใหม่ แก้ไข พ.ร.บ.ธปท.ให้กระจายการลงทุนในตราสารทุนได้ พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินนโยบาย“

ขณะเดียวกันต้องปรับปรุงรูปแบบสื่อสาร และศูนย์การเรียนรู้สร้างสรรค์ เพิ่มการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิตอล โซเชียลมีเดีย เป็นต้น สุดท้ายคือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการธนบัตรให้มีศักยภาพมากขึ้นด้วย“

ทั้งหลายทั้งปวง…จะเป็นไปตามที่ผู้ว่าแบงก์ชาติป้ายแดง วาดฝันไว้หรือไม่ คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น!!. 

ณัฐธินี มณีวรรณ“
ที่มาของข่าว: เดลินิวส์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.