รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนเดือน พ.ย. ปรับตัวลดลง 14.4% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และบ่งชี้ถึงความวิตกกังวลด้านการลงทุนของบริษัทต่างๆ
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของภาคเอกชนนั้น มีมูลค่าทั้งสิ้น 7.738 แสนล้านเยน (6.6 พันล้านดอลลาร์) โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานดังกล่าวไม่นับรวมยอดซื้อเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นตัวเลขที่มีความผันผวน แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวในเดือนพ.ย.ร่วงลงอย่างหนัก แต่รัฐบาลได้คงการประเมินยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานไว้เช่นเดิม โดยระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน "มีสัญญาณกระเตื้องขึ้น"
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเป็นตัวเลขที่มีการจับตาดูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มองว่าการลงทุนของภาคธุรกิจ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นนั้น เป็นแกนหลักที่ขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนยอดสั่งซื้อจากภาคการผลิตปรับตัวลดลง 10.2% แตะ 3.383 แสนล้านเยนในเดือนพ.ย. หลังพุ่งขึ้น 14.5% ในเดือนต.ค. ขณะยอดสั่งซื้อจากนอกภาคการผลิตหดตัวลง 18.0% สู่ระดับ 4.379 แสนล้านเยน
รายงานระบุว่า ยอดสั่งซื้อทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงยอดสั่งซื้อจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร่วงลง 23.2% แตะ 2.15 ล้านล้านเยน ความต้องการเครื่องจักรญี่ปุ่นจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นมาตรวัดการส่งออกในอนาคต ลดลง 25.0% แตะระดับ 9.70 แสนล้านเยน หลังพุ่งขึ้นถึง 41.6% ในเดือนต.ค. สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--