สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เจตาแบค คาดปี 59 เติบโต 8%
11/01/2016
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

นายสุชาติ มงคงอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ GTB ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำระบบเผาไหม้ งานวิศวกรพลังงานความร้อน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และงานบริการเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไอน้ำ เปิดเผยว่า ในปี 2559 คาดว่าบริษัทจะมีการเติบโตประมาณ 7-8% ส่วนปี 2558 คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 8-10% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 962.29 ล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทฯ ยังมาจากธุรกิจจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ อะไหล่ การซ่อมบำรุง การให้บริการในส่วนของเครื่องกำเนิดไอน้ำ และการใช้พลังงานระบบไอน้ำ 
 
"การเติบโตของบริษัทฯ มาจากการขยายกำลังการผลิตของโรงงานเดิม และปรับปรุงให้มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งอุสาหกรรมเครื่องกำเนิดไอน้ำยังคงมีการเติบโตทุกปี มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 200 ล้านบาท บริษัทฯ จึงมองว่าเป็นธุรกิจที่ยังมีช่องว่างในตลาดอีกมาก และกลุ่มลูกค้าหลักก็มาจากโรงงานอุสาหกรรมทุกประเภท"
 
โดยในปีนี้บริษัทฯ จะมีการเติบโตจากการขยายโรงงานเดิม และงานบริการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมองโอกาสในการได้รับงานใหม่ เช่น งานการผลิต(HHPP) โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ประมาณ 3-4 แห่งของบริษัทเอกชน ตามนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของภาครัฐ(PPP) กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ต่อหนึ่งโรงงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา มูลค่าประมาณ 100-700 ล้านบาท ด้านแบ็คล็อก บริษัทฯ มีงานในมือแล้ว มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2558 โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ ไตรมาส 3/2559 และยังมีงานที่เข้ามาในขณะนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนประมาณ ไตรมาส 1/2559
 
สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ นั้น บริษัทฯ จะมีการเดินสายโรดโชว์ในวันที่ 18 ม.ค. 59 และกำลังอยู่ในช่วงการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินเรื่องการกำหนดราคาหุ้นไอพีโอ คาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายใน ไตรมาส 1/2559 โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอ บริษัทฯ จะนำไปขยายกำลังการผลิตและขยายช่องทางการจำหน่ายในต่างประเทศ รวมถึงการทำวิจัยและพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์
 
บริษัทได้ตั้งงบการลงทุนประมาณ 150-170 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต สร้างเครื่องจักรใหม่ และขยายช่องทางการจำหน่ายในต่างประเทศ โดยจะเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายในประเทศที่บริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าอยู่แล้ว คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา ดูไบ และแอฟริกาใต้
 
ส่วนเรื่องความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ ไม่มีความกังวลในเรื่องนี้ มองว่าธุรกิจยังไปดี ยังสามารถเติบโตได้ เพราะเป็นเรื่องปกติที่ตลาดหุ้นจะต้องมีการปรับตัวขึ้นลง ถ้าธุรกิจมีการเติบโตได้ จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล
 
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ในปี 2558 จากงานขาย(รวมการส่งออกต่างประเทศ) 80% งานบริการ 20% ซึ่งในปี 2559 จะมีการปรับสัดส่วนงานบริการให้ครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น เป็น งานขาย 70% และงานบริการ 30%
ที่มาของข่าว: บ้านเมือง

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.