ตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกของเมียนมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่การซื้อขายจะเริ่มขึ้นในปีหน้าและยังไม่เปิดการซื้อขายให้ผู้ลงทุนต่างชาติ
ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (YSX) ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ทรงโคโลเนียลตั้งแต่ยุคอาณานิคมที่ได้รับการบูรณะเป็นอย่างดี แม้ว่าจะมี 6 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับการอนุมัติให้สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดได้แล้วแต่ติดขัดที่ยังขาดบริษัทผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ หรือ อันเดอร์ไรเตอร์ ทำให้การเข้าตลาดต้องล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิม นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปิดตัวตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลานี้เป็นการตอกย้ำเชิงสัญลักษณ์ว่าเมียนมากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ศักราชใหม่แห่งความก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเมืองหลังการเลือกตั้งที่ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังร่วมมือเพื่อนำไปสู่การถ่ายโอนอำนาจโดยสันติวิธี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทที่จะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นรายแรกๆ นั้นได้แก่ บริษัท เฟิร์สต์ เมียนมา อินเวสเมนท์ฯ ของนายเซิร์จ ปัน มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวเมียนมา และบริษัท เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ที่ญี่ปุ่นร่วมถือหุ้น นายญาน ทุน รองประธานาธิบดีเมียนมาฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยถึงความคาดหวังว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคต
เดวิด เกรย์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์เอาเออร์บาค เกรย์สัน จากนิวยอร์ก ให้ความเห็นว่า นักลงทุนในเมียนมาให้ความสนใจเป็นอย่างมากและนับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเมียนมาให้ความสนับสนุนการทำตลาดในต่างประเทศด้วย เช่นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายหม่อง หม่อง เทียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็เพิ่งนำคณะเยือนตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและพบปะกับบรรดาตัวแทนของสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม นายมิกโซ ดัส นักวิเคราะห์จาก บริษัทโนมูระฯ ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้งยังต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อมั่นว่ามีการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส มีหลักธรรมาภิบาล มีประวัติการซื้อขายที่ดี และสภาพคล่องที่ดี “ผมคิดว่าตลาดหลักทรัพย์เมียนมาคงจะเหมือนตลาดหลักทรัพย์ในลาวและกัมพูชามากกว่า คือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศและยังต้องเรียนรู้ประสบการณ์ไปก่อนในหลายปีแรกหลังเปิดทำการ” ทุกวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ของ สปป.ลาว ยังมีบริษัทจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดเพียง 2 บริษัท ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชามีเพียง 1 บริษัทเท่านั้น
“ตลาดหลักทรัพย์จะช่วยพัฒนาระบบการเงินของประเทศ ยิ่งหากมีธนาคารใหญ่ๆมาเข้าตลาดและบริษัทที่มีแนวคิดดีๆ ที่จะช่วยจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนเพื่อการลงทุน นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ยังจะเป็นกลไกช่วยให้รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนางอองซาน ซูจี สามารถแปรรูปรัฐวิสาหกิจได้ด้วย” ทั้งนี้ เมียนมาซึ่งมีประชากรราว 51 ล้านคนนั้น เป็นประเทศที่ในอดีตเคยถูกปกครองภายใต้รัฐบาลทหารมายาวนานราวครึ่งศตวรรษทำให้มีความท้าทายทางเศรษฐกิจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ระบบกฎหมายที่ยังคลุมเครือ โครงสร้างพื้นฐานที่ยังล้าหลัง และระบบการเงินที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ดังนั้น การก่อกำเนิดของตลาดหลักทรัพย์ที่ทันสมัยจึงเป็นทั้งสัญลักษณ์และเป็นความหวังว่า ระบบเศรษฐกิจและการเงินของเมียนมากำลังมีย่างก้าวที่สำคัญและพัฒนาสู่ทิศทางที่น่าเชื่อถือและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น