ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่แปลงนาบริเวณบ้านมะเมียง ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อเร็วๆ นี้ นายรุ่งโรจน์ เหมันต์สุทธิกุล ประธานบริษัท เพาว์เวอร์ยูนิตี้ จำกัด และ Mr.YANG GUO SHENG ประธานบริษัท Tong Yang จากประเทศจีน ได้นำรถเกี่ยวข้าว นวัตกรรมใหม่จากประเทศจีน มาสาธิตให้เกษตรกรชาวสุรินทร์ได้ชมเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย และได้สาธิตการเกี่ยวข้าวอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะรถกำลังเกี่ยวอยู่ คนขับสามารถตั้งค่าและเดินลงจากรถได้ โดยที่รถสามารถเกี่ยวเองได้โดยไร้คนขับ

ฟางข้าวที่ได้มาจากการใช้รถเกี่ยวมี 2 แบบ แล้วแต่เกษตรกรต้องการ มีทั้งแบบสับละเอียดและแบบยาวมาทั้งต้นเลยก็มี เหมือนคนไทยสมัยโบราณจะนวดข้าวโดยใช้วิธีเหวี่ยงตีลงพื้น ทำให้เมล็ดข้าวหลุดออกจากต้น ซึ่งเป็นหลักการเดียวกัน สามารถเก็บเมล็ดข้าวออกจากต้นได้หมดจด ไม่มีร่วงหล่นลงพื้น และทางบริษัท Tong Yang ยังได้นำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดมาให้เกษตรกรได้ลองใช้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และรับซื้อข้าวเปลือกในราคากิโลกรัมละ 15 บาท หากเป็นข้าวพันธุ์จะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 19 บาท แม้เกษตรกรจะไปขายข้าวให้โรงสีแล้วก็ตาม ก็สามารถมารับชดเชยได้ แต่ต้องสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทก่อน และใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่บริษัทจัดมาให้
ที่บ้านมะเมียงใต้ ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แปลงมันสำปะหลังของนางจันทร์เพ็ญ สุขสงวน เจ้าของไร่มันสำปะหลัง ได้มีการใช้เครื่องบินบังคับแบบเฮลิคอปเตอร์ในการโปรยสารกลางอากาศ ลักษณะเป็นการฉีดสารแบบเป็นละอองลงมาจากเครื่อง เป็นการให้อาหารทางใบ ซึ่งจากการสังเกตการณ์และจับเวลา 1 ไร่ จะใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 3 นาที แตกต่างจากการใช้แรงงานคนหลายเท่าตัว

นายปราโมทย์ หมายทอง อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 122 ม.4 บ้านมะเมียง ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เกษตรกรชาวนา กล่าวว่า ตั้งแต่มีโครงการนี้ขึ้นมา ตนรู้สึกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายขึ้นเยอะเลย ซึ่งพันธุ์ข้าวของตนเป็นพันธุ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทางโครงการได้เข้ามาช่วยปรับสภาพดิน ซึ่งแถวนี้เป็นดินทรายล้วนๆ ซึ่งปลูกต้นยูคาลิปตัสมาก่อน พอได้ปุ๋ยอินทรีย์จากโครงการนี้ ตนได้เห็นว่าดินดีขึ้น และต้นข้าวก็แข็งแรงยิ่งขึ้น ไม่มีล้มเลย ซึ่งปุ๋ยอินทรีย์นี้เป็นอินทรีย์ล้วนๆ ไม่มีเคมีเจือปน และรถเกี่ยวข้าวที่ทางบริษัทเอามาสาธิตให้ตนดู ตนก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะดีแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องฟาง มันมีทั้งแบบสับสั้น แบบไว้ยาว อยู่ที่ชาวบ้านเองว่าจะชอบแบบไหน แต่ถ้ามีตัวมัดฟางข้าวได้จะยิ่งดีกว่านี้
นางจันทร์เพ็ญ สุขสงวน อายุ 37 ปี เลขที่ 111 บ้านมะเมียงใต้ ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าของไร่มันสำปะหลัง กล่าวว่า ตนดูไปแล้วมันพ่นได้ทั่วทุกใบเลย ซึ่งตนพอใจในวิธีการพ่นปุ๋ยทางใบมากเลย ซึ่งตนเคยได้ยินมาก่อนว่า ถ้าใช้เครื่องบินมันดีและเร็วกว่าใช้คนพ่น ซึ่งหากใช้คนพ่นจะใช้เวลามาก ต้นมันล้ม และฝุ่นละออง สารเคมีก็เข้าร่างกายด้วย ตนก็คาดหวังว่าผลผลิตปีนี้จะได้มากกว่าเดิม

นายรุ่งโรจน์ เหมันต์สุทธิกุล ประธาน บริษัท เพาว์เวอร์ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า เราเรียกโครงการนี้ว่าศูนย์เกษตรต้นน้ำครบวงจร จัดขึ้นเพื่อลดต้นทุนภาคการผลิตให้กับเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ แล้วเราใช้สุรินทร์เป็นเมืองต้นแบบ ซึ่ง 1 ปีที่ดำเนินการมา สิ่งที่จับต้องแน่นอนคือ ต้นทุนการผลิตของชาวบ้านลดลง และสุรินทร์เป็นที่แรกของประเทศไทยที่ใช้อากาศยานด้านการเกษตรเข้ามาช่วยเพิ่มผลผลิต ขณะเดียวกันก็ได้รถเกี่ยวข้าวที่ทันสมัยในเรื่องการเก็บเกี่ยว จึงทำให้เปอร์เซ็นต์การสูญเสียมีน้อย เพราะว่าการที่จะลดต้นทุนลงข้างเดียว และขณะเดียวกันการจัดการที่ไม่ดีมันก็ไม่สามารถจะลดต้นทุนได้สำเร็จ ก็เลยเอาเครื่องจักร 2 ตัวนี้เข้ามาในระยะที่ 1 ส่วนระยะที่ 2 ก็จะเข้ามาปรับดินให้เกษตรกรในสุรินทร์หลายๆ แปลง เพื่อให้เป็นนาแปลงใหญ่ เนื่องจากโครงการของเราได้กำหนดต้นทุนเอาไว้ก่อนแล้ว จึงทำให้ชาวบ้านจะรู้เลยว่าตัวเองจะลงทุนเท่าไหร่ และจะไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่ซ่อนอยู่ เช่น บางครั้งชาวนาลงทุนไปส่วนหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้คิดอีกส่วนหนึ่ง เลยทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย โครงการตัวนี้จะเป็นการล็อกราคาที่จะรับจ้างปลูกทั้งระบบ ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เรามั่นใจว่าจะทำผลผลิตเพิ่มได้อีก 20-30 เปอร์เซ็นต์.