สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

ลีดเวย์หวังพาซูมิโตโมผงาด ตั้งเป้าชิงแชมป์ใน 5 ปี
04/12/2015
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
“ลีดเวย์” ตั้งเป้าพารถขุดแบรนด์ญี่ปุ่น ซูมิโตโม ขึ้นท็อปไฟว์ในไทยภายในปีหน้า มองโอกาสการเติบโตสดใสจากเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ เร่งขยายสาขาออกต่างจังหวัดรองรับความต้องการ เชื่อท้าชิงแชมป์ได้ใน 5 ปีข้างหน้า



นายฉกาจ แสนจัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักจากญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ ซูมิโตโม แห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะทำส่วนแบ่งในตลาดรถขุดไฮดรอลิกในประเทศไทยขึ้นไปเป็น 5 อันดับแรกให้ได้ในปีหน้า จากปัจจุบันที่ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 6 ที่ 7% โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการขยายตลาดอย่างรวดเร็วจากเพียง 3% ในปี 2555 และคาดว่าถึงสิ้นปี 2558 จะทำยอดขายรวมได้ครบ 500 คัน โดยเป็นยอดขายในปีนี้ 200 คัน

สำหรับในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 250 คัน และเชื่อว่าจะสามารถก้าวขึ้นไปถึง 1 ใน 3 อันดับแรกในตลาดรถขุดไฮดรอลิกของประเทศไทย หรือแม้กระทั่งแข่งขันกับอันดับ 1 ในตลาดได้ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นเป้าหมายของลีดเวย์ ทั้งนี้ มองแนวโน้มของตลาดในปีหน้าสดใส จากอานิสงส์ของโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการของตลาดรถขุดไฮดรอลิก

นอกเหนือจากปัจจัยตลาดภายนอกแล้ว ลีดเวย์ยังวางกลยุทธ์ที่จะขยายตลาดจากภายใน ด้วยการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดเพิ่มเติมเพื่อรองรับกับความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากโครงการของรัฐ หลังจากในปี 2558 มีการเปิดสาขาใหม่ที่สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี และนครปฐม เพิ่มเติมจากสาขาที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพมหานคร ลำปาง นครศรีธรรมราช และขอนแก่น ขณะเดียวกันมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เช่น รถขุดขนาดเล็ก ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ทั้งในด้านของอุปกรณ์เสริม และแพ็กเกจการดูแลรักษารถขุดหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบ

นายมิคิโอะ อิเดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซูมิโตโม (เอส.เอช.ไอ.) คอนสตรัคชั่น แมชชีนเนอรี จำกัด แห่งประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า นอกเหนือจากตลาดญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา ยุโรปแล้ว อาเซียนเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญต่อซูมิโตโมไม่แพ้ตลาดใหญ่อื่นๆ โดยมีประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความต้องการสำหรับรถขุดไฮดรอลิกมากเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาครองจากอินโดนีเซีย ซึ่งในอนาคตซูมิโตโมจะมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ด้วยการสนับสนุนจากโรงงานผลิตที่ตั้งขึ้นในอินโดนีเซียเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุด 2 พันคันต่อปี

“ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เรามีส่วนแบ่งในตลาดญี่ปุ่น 12% ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ และเราหวังว่าจะสามารถต่อยอดธุรกิจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในญี่ปุ่น ตลอดจนประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย” นายอิเดะ กล่าว

ด้านนายคาซูฮิโกะ ซาซากิ ประธานอำนวยการ บริษัท พีที ซูมิโตโม เอส. เอช. ไอ. คอนสตรัคชั่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันอาเซียนเป็นตลาดอันดับ 5 ของซูมิโตโมรองจากญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ และยุโรป ด้วยสัดส่วนรายได้เพียงไม่ถึง 10% อย่างไรก็ดี ซูมิโตโมมีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในตลาดแห่งนี้เพิ่มขึ้นจากเดิม และมองเห็นโอกาสที่จะทำได้ แม้ว่าสถานการณ์ในปีนี้และปีหน้าจะค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลสืบเนื่องมายังประเทศอาเซียน แต่พื้นฐานเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคยังเติบโตได้ ประกอบกับมีโอกาสจากโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในไทยและเมียนมาที่คาดว่าจะทดแทนการชะลอตัวในตลาดอินโดนีเซียและมาเลเซียได้

“ซูมิโตโมจะให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายเป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโต ต่อยอดจากจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานที่ให้แรงขุดที่ดีแต่ขณะเดียวกันยังประหยัดพลังงานด้วย โดยบริษัทมีความมุ่งหวังที่จะใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น ใส่ใจกับความต้องการในการใช้งานของผู้บริโภค และตอบสนองต่อแนวโน้มของตลาด และเชื่อว่าการจับมือทำงานร่วมกับลีดเวย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับซูมิโตโมในตลาดประเทศไทย”

ทั้งนี้ นายฉกาจกล่าวว่า ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ มียอดขายในตลาดไทยและเมียนมาจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 เป็นมูลค่า 1.357 พันล้านบาท และคาดว่าในปีงบประมาณ ปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทจะทำยอดขายได้ถึง 2 พันล้านบาท จากผลิตภัณฑ์หลักคือรถขุดไฮดรอลิก ทั้งขนาดเล็ก 8-20 ตัน ขนาดกลาง 20-40 ตัน และขนาดใหญ่ 40-80 ตัน นอกจากนี้ ยังมีรถปูยางที่นำเข้ามาทำตลาดในไทย โดยตั้งเป้าหมายยอดขายปีหน้าไว้ที่ 25 คัน

ขณะที่ซูมิโตโมมีกำลังการผลิตรถขุดไฮดรอลิกอยู่ที่ 8 พันคันต่อปี ในจำนวนดังกล่าว เป็นการผลิตจากโรงงานในอินโดนีเซียประมาณ 1 พันคันต่อปี และโรงงานในจีนประมาณ 3 พันคันต่อปี ที่เหลือเป็นการผลิตจากโรงงานที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนรถปูยางมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 240 คันต่อปี
ที่มาของข่าว: ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.