สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

ภัยแล้งฉุดยอดขาย "คูโบต้า" พลิกเกมลุยตลาดเพื่อนบ้าน
01/12/2015
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
ยอดขายสยามคูโบต้าปีนี้ลด 5% หลังเผชิญภัยแล้งบวกรัฐประกาศงดปลูกข้าวนาปรัง ปรับแผนรุกตลาดเครื่องจักรกลเกษตรพืชไร่ พร้อมขยายตลาดเพื่อนบ้าน คาดปี?59 ดันยอดขายถึง 5 หมื่นล้านบาท ทุ่ม 600 ล้าน ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในนิคมฯนวนคร



นายฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่ายอดขายรวมภายในสิ้นปีนี้อยู่ที่ 47,000 ล้านบาท แยกเป็นตลาดในประเทศ 30,000 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 17,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนในประเทศ 65% ส่งออกต่างประเทศ 35% ปีนี้ยอมรับว่าตลาดชะลอตัว ยอดขายลดลงราว 5% เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งและรัฐบาลได้ประกาศงดการปลูกข้าวนาปรัง รวมทั้งราคาข้าวยังคงทรงตัว ทำให้เกษตรกรชะลอการซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรลงตามไปด้วย 

อย่างไรก็ดี ในปี 2559 สยามคูโบต้าได้มีการทำแผนทางการตลาดเพิ่ม โดยจะหันมาเน้นเครื่องจักรกลทางการเกษตรสำหรับพืชไร่มากขึ้น อาทิ อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด จำพวกพืชเศรษฐกิจหลักที่ใช้น้ำน้อย พร้อมคาดการณ์ภาพรวมสถานการณ์น้ำยังคงวิกฤตลากยาวถึงปีหน้า จากเดิมที่เน้นเครื่องจักรกลทางการเกษตรสำหรับนาข้าวเพียงอย่างเดียว ก็เพิ่มแผนปีหน้าสำหรับนาข้าว 55% พืชไร่ 35% และอื่น ๆ 10% โดยคาดหวังว่าหากหันมาจับตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงพืชไร่จะมีแนวโน้มโตขึ้นไปอีก 10-20% ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าจะเพิ่มจาก 4.7 หมื่นล้านบาท เป็น 5 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้นายฮิโรชิยังเผยว่า ปีหน้าไม่เพียงแต่จะรุกตลาดเครื่องจักรกลทางการเกษตรสำหรับพืชไร่เพียงอย่างเดียว ยังเน้นขยายตลาดเพื่อนบ้าน โดยตลาดในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ได้ดำเนินแผนธุรกิจส่งออกไปที่กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ คือ รถไถเดินตาม แทร็กเตอร์ เครื่องยนต์ดีเซล และรถเกี่ยวนวดข้าว ซึ่งนายฮิโรชิมองว่าตลาดเออีซีมีความต้องการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรสูง เพราะสามารถลดต้นทุนผลิต ลดแรงงาน ทั้งยังช่วยรักษาคุณภาพของผลผลิตได้ดีกว่าด้วย 

"ขณะนี้เราดำเนินการจดทะเบียนตั้งบริษัทลูกที่ประเทศเมียนมา และวางแผนเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการบริการหลังการขาย ซึ่งเรามองว่าแผนบริการหลังการขายมีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก ส่วนตลาดอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย ทางญี่ปุ่นเราจะรุกตลาดเอง และเรามองว่าอินโดนีเซียเป็นตลาดใหญ่ในอนาคต"

นายฮิโรชิกล่าวต่อไปว่า สยามคูโบต้ามีแผนที่จะเปิดศูนย์ R&D SIAM KUBOTA เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ ๆ ของบริษัท ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 22,000 ตร.ม. หรือ 14 ไร่ ด้วยงบฯลงทุนกว่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดทำการได้เดือนมีนาคม 2559

ด้านนายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ทิศทางในการดำเนินงานของสยามคูโบต้าในปีหน้า บริษัทได้มุ่งเน้นโครงการต่าง ๆ ล่าสุดมีการพัฒนาระบบการทำงานที่ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคนิคด้านการเกษตร (Agricultural Solutions) และการจัดการเครื่องจักรกลการเกษตร (Machinery Solutions) ศึกษาสภาพพื้นที่ การเพาะปลูกทุกขั้นตอน และนำแนวคิด KUBOTA (Agri) Solutions มาใช้พัฒนาครบกระบวนการผลิตสำหรับนาข้าว โดยเฉพาะในปีหน้าจะมีการนำมาใช้พัฒนากับอ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด ซึ่งแนวคิดนี้เป็นกลยุทธ์ที่โดดเด่นและสำคัญของสยามคูโบต้า

ยกตัวอย่างช่วงฤดูการปลูกอ้อยปี 2547-2558 สยามคูโบต้าได้ร่วมมือกับเกษตรกรโรงงานน้ำตาลเกษตรผล จังหวัดอุดรธานี จัดทำโครงการทดลองและพัฒนาเกษตรกรรมแบบครบวงจร โดยการปลูกอ้อยทั้งระบบ ตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา รวมทั้งเก็บเกี่ยว สร้างรายได้มากกว่าเท่าตัว นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับโรงงานน้ำตาลในเมียนมา สามารถเพิ่มผลผลิตจากเดิมที่ได้ 7.2 ตันต่อไร่ เป็น 16 ตันต่อไร่ ซึ่งแนวคิด agri solutions นี้มีโครงการจะขยายเพิ่มเติมต่อไป

นายสมบูรณ์ จินตนาผล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไปสายงานขายและบริการ เผยว่า มูลค่าตลาดรวมเครื่องจักรกลทางการเกษตรในประเทศไทยมูลค่ารวม 4.5 หมื่นล้านบาท ลดลงไป 15% คิดเป็นยอดขายของบริษัทในไทยลดลง 5% เนื่องมาจากปัจจัยภาวะภัยเเล้ง ทุกฝ่ายต้องปรับตัว โดยส่วนแบ่งทางการตลาดของคูโบต้า (Market share) 70% คาดว่าจะเข้าใกล้ 80% 

ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ยังได้แนะนำโครงการแปลงนาส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรแบบครบวงจรร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านป่าแฝกใต้อ.แม่ใจจ.พะเยา จากผลความสำเร็จของโครงการนี้ ทำให้ในปี 2559 สยามคูโบต้าและศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวมีแผนงานขยายผลไปยังกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์กลุ่มอื่น ๆ ขณะนี้เรามีศูนย์ทั้งหมด 23 ศูนย์ จำนวนทั้งสิ้น 23 แปลงแล้ว" นายสมบูรณ์กล่าว

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.