"อิตัลไทย" เบนเข็มจับลูกค้า "เหมือง" หลังงานก่อสร้างซบ แข่งตัดราคาเดือด พร้อมนำเข้าเครื่องจักรกลหนักจีน โดดลงสนามสู้ราคา เผยทุ่มกว่า 100 ล้านบาท ปรับโฉมศูนย์บริการหลังการขาย "ลำปาง" หวังครองตลาดภาคเหนือเพิ่ม 15%
นายชลิต ผดุงชีพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด (ITI) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลนำเข้าจากต่างประเทศ เปิดเผยว่าปีนี้ธุรกิจมีการแข่งขันกันสูงเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้มีโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ออกมาน้อย ขณะที่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐเพิ่งเริ่มออกมา ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุน ทำให้กำหนดราคาขายได้ไม่ดีนัก ทำให้บริษัทมีแผนขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจากผู้รับเหมาก่อสร้างไปทำตลาดลูกค้าที่ใช้เครื่องจักรกลหนักในเหมืองเพิ่มขึ้นด้วยการนำรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่มีขนาดบรรทุก 40 ตันต่อคันจากประเทศจีนเข้ามาขาย จากที่ก่อนหน้านี้ได้นำรถตักยี่ห้อ SDLG จากประเทศจีน ซึ่งมีราคาไม่สูงนักเข้ามาขาย เพื่อกระจายฐานลูกค้าไปทุกระดับ
ปี 2558 บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากเครื่องจักรกลหนักยี่ห้อวอลโว่ จากประเทศสวีเดน 70% ที่เหลือเป็นรถเครน ยี่ห้อทาดาโน่ จากประเทศญี่ปุ่น และรถตัก ยี่ห้อ SDLG จากประเทศจีน ส่วนปี 2559 ตั้งเป้าหมายจะเติบโตขึ้นจากปีนี้ประมาณ 20% ซึ่งถือว่า ยังคงเติบโตตามแผน 5 ปี (พ.ศ. 2557-2562) ที่วางแผนไว้ปี 2562 จะมียอดขายให้ได้ 8,000 ล้านบาท
"ตอนนี้ตลาดต่อสู้กันเรื่องราคาค่อนข้างมาก ขณะที่สินค้าแบรนด์วอลโว่ ซึ่งเป็นยอดขายหลัก ไม่ใช่เครื่องจักรราคาถูก ที่จะไปแข่งด้านราคาได้ แต่เครื่องจักรของวอลโว่มีข้อดีเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และประหยัดน้ำมันในระยะยาว แต่พิสูจน์ไม่ได้จนกว่าจะซื้อไปใช้ ดังนั้น บริษัทจึงต้องหาสินค้ากลุ่มใหม่เข้ามา เพื่อขยายฐานลูกค้าให้การเติบโตเป็นไปได้ตามเป้าหมายปีละ 20%" นายชลิตกล่าวและว่า
นอกจากนี้ เพื่อให้การผลักดันยอดขายได้ตามเป้า บริษัทมีอิตัลไทย เซ็นเตอร์เป็นศูนย์บริการหลังการขายรวม 15 แห่ง แบ่งเป็นประเทศไทย 12 สาขาครอบคลุมทั่วทุกภาค และ 3 สาขาในประเทศลาว โดยภาคกลางอยู่ที่สมุทรสาคร และอยุธยา ภาคตะวันออก อยู่ที่ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ภาคเหนือ อยู่ที่ลำปาง และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งเป็นอีสานตอนบนอยู่ที่ขอนแก่น อีสานตอนล่างอยู่ที่อุบลราชธานี และนครราชสีมา ส่วนทางใต้ ที่สุราษฎร์ธานี พังงา และสงขลา (หาดใหญ่) สำหรับ สสป.ลาว ได้แก่ ภาคกลางมีสาขาที่เวียงจันทน์, ภาคใต้มีสาขาที่ปากเซ และภาคเหนือมีสาขาที่หงสา นอกจากนี้ มีสำนักงานให้บริการซ่อมขนาดเล็กอยู่ที่เขื่อนไซยะบุรี สำหรับให้บริการลูกค้ารายใหญ่ ปัจจุบันมีบริษัท ช.การช่างที่ไปรับงานก่อสร้างที่ลาว เป็นต้น ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอื่นมีดีลเลอร์ตัวแทนจัดจำหน่ายแล้ว ยกเว้นที่ทวาย ประเทศเมียนมา มีแผนจะเข้าไปตั้งสาขาในอนาคต
ทั้งนี้ ในปี 2559 ทางบริษัทมีแผนเปิด อิตัลไทย เซ็นเตอร์ สุราษฎร์ธานี ด้วยงบฯลงทุนกว่า 70 ล้านบาท และในปีถัดไปมีแผนเปิดที่จังหวัดกาญจนบุรี เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ และตราด ซึ่งภายใน 5 ปี บริษัทจะสามารถขยายสาขาอิตัลไทย เซ็นเตอร์ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และ สปป.ลาว ได้มากกว่า 20 สาขา
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท ในการปรับปรุงอิตัลไทย เซ็นเตอร์ ลำปาง บนพื้นที่เกือบ 5 ไร่ เป็นศูนย์จำหน่ายเครื่องจักรกลหนักและบริการหลังการขายแบบครบวงจร หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดพื้นที่ภาคเหนือเพิ่ม 15% ประกอบด้วย งานขายเครื่องจักรกล งานบริการซึ่งมีทีมช่าง พร้อมโรงซ่อมมาตรฐาน งานขายอะไหล่ พร้อมอะไหล่คงคลัง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทางภาคเหนือโดยเฉพาะตลาดงานเหมืองและงานโรงโม่ ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการเติบโตของตลาดงานก่อสร้างจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเตรียมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)