ผู้จัดการตลท. คาดปี 2559 กลุ่มประเทศ CLMV ระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ไทยมากขึ้น จับตาเมียนมา มาแรง เหตุต้องการระดมทุนลุยโครงสร้างพื้นฐาน ภาครัฐอ้าแขนรับปรับหลักเกณฑ์เรื่องจัดเรตติ้ง บล.เคที ซีมิโก้ฯ หนึ่งเดียวโบรกเกอร์ไทย ได้ไลเซนส์ธุรกิจหลักทรัพย์ในเมียนมา พร้อมลุยธุรกิจที่ปรึกษา
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลท.ได้เข้าไปช่วยฝึกอบรม และวางระบบการซื้อขายในการจัดตั้งตลาดหุ้นของประเทศเมียนมา ซึ่งจะเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคมนี้ และจะสมบูรณ์เต็มรูปแบบในปี 2559
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตลท. ได้ดำเนินการในลักษณะนี้กับกลุ่มประเทศCLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และ เวียดนาม ) และ อื่นๆ
นอกจากนี้นางเกศรา ยังคาดว่าปี 2559 จะมีการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้จากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจากเมียนมา ที่ต้องการระดมทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอีกเป็นจำนวนมาก ได้แนะนำให้เมียนมาเข้ามาระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรในประเทศไทย เหมือนกับที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือสปป.ลาว ที่ได้มาระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรในตลาดตราสารหนี้ในไทย เพื่อนำเงินไปสร้างโรงไฟฟ้าหงสา เพราะประเทศไทยยังมีสภาพคล่องอีกเป็นจำนวนมาก
โดยขณะนี้ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้มีการปรับหลักเกณฑ์เพื่อเอื้ออำนวยให้กลุ่ม CLMV มากขึ้น เช่น ปรับลดมาตรฐานอันดับความน่าเชื่อถือหรือเรตติ้งของตราสารหนี้ลง เพื่อให้ประเทศเมียนมาเข้ามาระดมทุนในไทยได้จากเดิมเรตติ้งต้องอยู่ในอันดับน่าลงทุน เป็นสามารถลงทุนได้ ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทที่เข้ามาระดมทุนเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีความมั่นคงอยู่แล้ว
อนึ่งช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคที ซีมิโก้ จำกัด ได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศเมียนมา จากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ประเทศเมียนมา โดยเป็นโบรกเกอร์ไทยเพียงรายเดียวที่มีคุณสมบัติได้รับใบอนุญาต และมีศักยภาพในการเป็น ผู้ให้บริการผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์แก่บริษัทที่จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (YSX)
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. เคที ซีมิโก้ฯ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศ CLMV จึงร่วมยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศเมียนมาโดยมีทั้งบริษัทหลักทรัพย์จากไทย ต่างชาติ และบริษัทในเมียนมา รวมมากกว่า 100 ราย สนใจ และเข้าร่วมยื่นใบสมัครในครั้งนี้ แต่จะมีผู้ได้รับใบอนุญาตเพียง 10 รายเท่านั้น
“บริษัทมีความพร้อม และศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์แก่บริษัทในเมียนมา ที่จะนำหุ้นเข้าตลาดด้วยเช่นกัน” นายชัยภัทร กล่าวและว่า
โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในพม่า ด้วยการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท เมียนมาร์ รูบี ฮิว ไฟแนนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในเมียนมา และมีแผนร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้ง “KTZ Ruby Hill Securities Company Limited” ขึ้นทันทีหลังได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ พร้อมเดินหน้าการจัดตั้งสำนักงานในนครย่างกุ้ง