ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศกรีซ พบว่าธนาคารหลักทั้ง 4 แห่งของกรีซยังขาดเงินทุนเป็นมูลค่า 1.44 หมื่นล้านยูโรภายใต้ภาวะวิกฤติ นั่นคือธนาคารพาณิชย์จะต้องอยู่รอดเมื่อเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจและการเงินที่ย่ำแย่ลง โดยภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว อีซีบีคาดการณ์การหดตัวของเศรษฐกิจกรีซไว้ที่กว่า 3% ในปีนี้และปีหน้า ก่อนที่จะเติบโตขึ้นเล็กน้อยในปี 2560
ขณะเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์พื้นฐาน ซึ่งอีซีบีคาดการณ์การหดตัวของเศรษฐกิจกรีซไว้ 2.3% ในปีนี้ และ 1.3% ในปีหน้า ก่อนจะขยายตัว 2.7% ในปี 2560 ธนาคารพาณิชย์กรีซขาดเงินทุน 4.4 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ ในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ทั้ง 4 ราย ไพเรอุสแบงก์จำเป็นต้องเพิ่มทุน 4.9 พันล้านยูโร เนชั่นแนลแบงก์ออฟกรีซต้องเพิ่มทุน 4.6 พันล้านยูโร อัลฟ่าแบงก์ต้องเพิ่มขึ้น 2.7 พันล้านยูโร และยูโรแบงก์ต้องเพิ่มทุน 2.1 พันล้านยูโร โดยธนาคารพาณิชย์ของกรีซมีเวลาถึงวันที่ 6 พฤศจิกายนในการนำเสนอแผนการเพิ่มทุน
อีซีบีกล่าวว่า หนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดของธนาคารพาณิชย์กรีซ คือสินเชื่อจำนวนมากที่ปล่อยกู้ไปให้กับภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่เสี่ยงต่อการไม่ถูกชำระคืน หลังจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการควบคุมเงินทุนในช่วงก่อนหน้านี้ โดยหนี้ที่มีความเสี่ยงต่อการไม่ถูกชำระคืนเพิ่มขึ้น 7 พันล้านยูโรเป็น 1.07 แสนล้านยูโร หรือคิดเป็นเกือบ 50% ของหนี้ที่ยังไม่ชำระ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจากการประเมินของอีซีบี ธนาคารพาณิชย์กรีซจะต้องเพิ่มทุนเป็นมูลค่ามาก แต่มูลค่าดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ หมายความว่ามีโอกาสน้อยลงที่ผู้ฝากเงินจะต้องแบกรับภาระการขาดทุน
นายยูคลิด ซากาโลตอส รัฐมนตรีคลังของกรีซ กล่าวแสดงความพึงพอใจต่อผลการทดสอบของอีซีบี และแสดงความเชื่อมั่นว่าธนาคารพาณิชย์กรีซจะสามารถเพิ่มทุนได้ทันกำหนด เช่นเดียวกับตัวแทนของคณะกรรมาธิการยุโรปที่กล่าวว่า กระบวนการเพิ่มทุนเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของระบบธนาคารพาณิชย์กรีซ เพื่อให้กรีซสามารถทยอยยกเลิกการควบคุมเงินทุน และกลับมาปล่อยสินเชื่อราคาไม่แพงให้กับระบบเศรษฐกิจได้อีกครั้ง
ธนาคารพาณิชย์กรีซต้องพึ่งพาเงินกู้ฉุกเฉินจากอีซีบีมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หลังจากความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลให้ชาวกรีซแห่ถอนเงินฝากออกจากธนาคารเป็นจำนวนมาก และธนาคารต้องอาศัยเงินกู้จากอีซีบีมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ลงจากการเจรจาเงินช่วยเหลือที่ยืดเยื้อระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้
ทั้งนี้ ในการเจรจาเงินช่วยเหลือรอบล่าสุด มีการกำหนดเงินช่วยเหลือถึง 2.5 หมื่นล้านยูโร เพื่อนำมาช่วยธนาคารพาณิชย์แบกรับภาระหนี้เสีย อย่างไรก็ดี เนื่องจากเงินก้อนดังกล่าวเป็นเงินที่รัฐบาลต้องชำระคืนแก่เจ้าหนี้ รัฐบาลจึงไม่ต้องการพึ่งพาเงินในส่วนนี้เพียงส่วนเดียว โดยได้มีการยื่นข้อเสนอให้ผู้ถือหุ้นและพันธบัตรของธนาคารพาณิชย์รับภาระเงินทุนที่ขาดส่วนหนึ่งก่อนที่ธนาคารจะระดมเงินทุนจากตลาดได้