พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบโครงการส่งเสริมการให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุน ให้สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ เวลา5ปี ตั้งแต่ปี58-62งบประมาณรวม3,322.49ล้านบาท โดยปี58ซึ่งเป็นระยะนำร่อง จะมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ20แห่ง แบ่งเป็นสหกรณ์ที่มีสมาชิกปลูกข้าว10สหกรณ์ และสหกรณ์ที่มีสมาชิกปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์10สหกรณ์
คาดว่าในระยะนำร่องนี้จะมีพื้นที่ทำนาได้รับประโยชน์72,000ไร่ลดต้นทุนการเก็บเกี่ยวได้ไร่ละ295บาท ลดจากไร่ละ500บาทเหลือ205บาท คิดเป็นมูลค่าต้นทุนที่ลดลงรวมปีละ21.24ล้านบาท ชาวนาได้รับประโยชน์4,800รายและพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์216,000ไร่ ลดต้นทุนการสีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ไร่ละ200บาท โดยลดจากไร่ละ300บาท เหลือไร่ละ100บาท คิดเป็นมูลค่าต้นทุนที่ลดลงรวมปีละ43.2ล้านบาท เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดได้ประโยชน์10,000ราย
ส่วนระยะขยายผลของโครงการช่วงปี59-62จะมีพื้นที่ทำนาได้รับประโยชน์ 2.52ล้านไร่ ลดต้นทุนการเก็บเกี่ยวข้าวได้ไร่ละ65บาท คิดเป็นมูลค่ารวมปีละ163.8ล้านบาท เกษตรกรทำนาได้รับประโยชน์172,800รายส่วนพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ประโยชน์864,000ไร่ลดต้นทุนการสีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ไร่ละ180.50บาท คิดเป็นมูลค่ารวมปีละ155.95ล้านบาท เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดได้รับประโยชน์40,000ราย
สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว มีเวลา5ปี ตั้งแต่ปี58-62งบประมาณรวม3,322.49ล้านบาทมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น99.67ล้านบาท ประกอบด้วยเงินอุดหนุนจ่ายขาด98.9ล้านบาท และงบดำเนินการ770,000บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนำร่องปี58
ขณะที่งบประมาณเพื่อเป็นงบดำเนินการในการดำเนินกิจกรรมในระยะขยายผลปี59-62จะนำมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 15ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นกรอบวงเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน2,789.4ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมตามโครงการ โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ธ.ก.ส.ในอัตรา3%ต่อปี เป็นเวลา5ปี นับตั้งแต่วันที่สหกรณ์กู้ยืมเป็นวงเงิน418.41ล้านบาท