นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้ประกาศให้นโยบาย SMEs เป็นวาระแห่งชาติโดยมีแนวทางปรับเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่เน้นปัจจัยการผลิตเดิมซึ่งใช้ประโยชน์จากที่ดินแรงงาน และทุน ไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นปัจจัยขับเคลื่อน เพื่อยกระดับให้ SMEs ไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ของ SMEs ทั้งระบบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ให้ขยายตัวร้อยละ 1 ภายในปี 2559 คิดเป็นมูลค่า 300,000 ล้านบาท โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมกันบูรณาการมาตรการช่วยเหลือทั้งช่องทางการเงิน ช่องทางการลงทุน ช่องทางการพัฒนาศักยภาพ SMEs และช่องทางการตลาด
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีแนวทางการช่วยเหลือ SMEs ในหลายมาตรการด้วยกันแต่ช่องทางหนึ่งที่ผมมองว่าน่าจะเกิดประโยชน์ได้สูงสุด และสอดคล้องกับการพัฒนา SMEs ตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ นั่นคือ การพัฒนาตามแนวทาง Industry 4.0 ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ใช้ระบบการจัดการที่ทันสมัยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกันก็ต้องมีการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีทักษะ (Skill) มากขึ้น
รวมทั้งใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในกระบวนการการผลิต แนวทาง Industry 4.0 จะถูกบรรจุอยู่ในแผนแม่บทการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม ระยะที่ 2 ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อเสนอคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติอยู่ในขณะนี้และจะมีโครงการและงบประมาณตามมา
การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs จำเป็นต้องเพิ่มบทบาทอุตสาหกรรมและบริการจากยุคที่ 2 ไปสู่ยุคที่ 3 เพื่อหนีห่างประเทศเพื่อนบ้าน
จากที่พึ่งพาการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติไปสู่การเพิ่มฟความเข้มแข็งและสัดส่วนความเป็นเจ้าของของคนไทยมากขึ้น เพื่อพัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งเสริมการขับเคลื่อนการลงทุนของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมและบริการ 11 สาขา คือ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการขนส่งทางรางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมการบินและอากาศยาน อุตสาหกรรมวัสดุในกลุ่ม Carbon Fiber บริการทางการศึกษา บริการทางการแพทย์ สำนักงานใหญ่ทางธุรกิจ การออกแบบดีไซน์ แฟชั่นและบันเทิง และโลจิสติกส์
สำหรับแนวทางการพัฒนอุตสาหกรรมไทยในอนาคตจะต้องปรับสู่ Industry 4.0 ในเร็วๆนี้ เช่นเดียวกับประเทศเกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยแนวทาง Industry 4.0 มีองค์ประกอบ 9 ด้าน ประกอบด้วย
1.หุ่นยนต์อัตโนมัติ (Autonomous Robots) มาเป็นผู้ช่วยในการผลิต
2.การสร้างแบบจำลอง (Simulation) เช่น การพิมพ์แบบ 3D เสมือนจริง
3.การบูรณาการระบบต่างๆเข้าด้วยกัน (System Integration)
4.การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสิ่งของ (Internet Of Things) ที่ทำให้เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ
5.การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Cybersecurity)
6.การประมวลและเก็บข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ (Cloud Computing)
7.การขึ้นรูปชิ้นงานด้วยเนื้อวัสดุ Additive Manufacturing เช่น การขึ้นรูปชิ้นงานในเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
8.เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือนโดยผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ทีวี 3 มิติ เครื่องเล่นเกม
9.ข้อมูลขนาดใหญ่ ( Big data) คือชุมนุมของชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนมีทั้งการบันทึกและจัดเก็บ การค้นหา การแบ่งปัน และการวิเคราะห์ข้อมูล