สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

'สุรเกียรติ'แนะรัฐ-เอกชน-มหาลัย จับมือพัฒนานวัตกรรม
04/10/2015
ข่าวเศรษฐกิจ
"สุรเกียรติ"แสดงปาฐกถา"ทิศทางเศรษฐกิจภาคอีสานหลังเปิดตลาดเออีซี"เผยอีสานมีศักยภาพสูงเชื่อมเออีซี แนะรัฐ-เอกชน-มหาลัยจับมือพัฒนานวัตกรรม

ศาสตราจารย์ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ,ปาฐกถา

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนในพื้นที่ ได้จัดสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจอีสานขึ้น โดยมีนายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน ทั้งนี้ภายในงาน ได้มีการแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจอีสานหลังเปิดตลาดอาเซียนอย่างสมบูรณ์” โดยศาสตราจารย์ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ และประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและการปรองดองแห่งเอเชีย ซึ่งมีนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชนทั่วไป มาร่วมฟังการปาฐกถาพิเศษครั้งนี้กว่า 1,500 คน

ทั้งนี้สำหรับจังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็นเมืองเอกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาล ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 1.1 แสนล้านบาท ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น และถนนมอเตอร์เวย์บางปะอินทร์ – นครราชสีมา รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณขยายเส้นทางมิตรภาพ และถนนสาย 304 เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางด้านโลจิสติคของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นในโอกาสที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ช่วงปลายปี 2558 นี้ ทางหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จึงได้เชิญผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจเศรษฐกิจอาเซียน มาบรรยายพิเศษให้กับนักธุรกิจ พ่อค้า และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ฟัง เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับธุรกิจ ให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปิด AEC ต่อไป

ศาสตราจารย์ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ และประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและการปรองดองแห่งเอเชีย กล่าวว่า ช่วงที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ AEC ปลายปี 2558 นี้ ถือว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน มีจุดแข็งกว่าภาคอื่นๆ หลายประการ ประการแรกมาจากนโยบายของรัฐบาล ที่อัดฉีดเงินงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก ทำให้เศรษฐกิจระดับฐานรากมีพลังขึ้นมาใหม่ ประการที่ 2 ภาคอีสานมีพื้นที่เขตแดนเชื่อมต่อกับประเทศ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งทั้ง 3 ประเทศนี้ มีนโยบายที่จะลดภาษีตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป จึงเป็นโอกาสที่จะส่งสินค้าจากภาคอีสานเข้าไปขายในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปสงค์ อุปทาน ซึ่งมีหลายกรณีแล้วที่เริ่มไปลงทุนในลาว กัมพูชา และเวียดนาม แล้วมาประกอบในประเทศไทย ก่อนส่งไปขายยังประเทศที่ 3 

"ฉะนั้นกลายเป็นว่าภาคอีสานมีจุดแข็งคือการอยู่ติดกับประเทศในอาเซียนที่ไม่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ประการที่ 3 ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่เชื่อมโยงกับประเทศที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเหล่านี้ต่างให้ความสำคัญกับภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งพม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพราะภาคอีสานอยู่จุดศูนย์กลางของประเทศเหล่านี้พอดี จึงปลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของการค้า หากจีนจะลงมาสิงคโปร์ ก็ต้องผ่านภาคอีสาน คนจะเชื่อมโยงจากทะเลอันดามัน ไปทะเลจีนใต้ ก็ต้องผ่านภาคอีสาน การเชื่อมโยงจากทวาย มา จ.มุกดาหาร ก็กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต"

ศ.ดร.สุรเกียรติ กล่าวอีกว่า  ดังนั้นตนจึงมองเห็นว่า ภาคอีสานมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจสูงมาก แต่สิ่งที่เราต้องทำขณะนี้ คือการเชื่อมโยงภาคเอกชน ภาครัฐ ภาคประชาชน เข้ากับมหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมขึ้นมาให้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มาเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ได้ ทั้งนี้สำหรับจังหวัดนครราชสีมา ตนมองว่ามีความพร้อมเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี 2 แห่ง แหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจ โรงงานอุตสาหกรรม และระบบการขนส่งที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากสามารถเชื่อมโยงกันได้ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งกับจังหวัดนครราชสีมา และภาคอีสานเป็นอย่างมาก
ที่มาของข่าว: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.