สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

คงเป้าจีดีพีไทยปีนี้โต 3% : สศค.ยันต้องพึ่งภาคการท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจชาติ
01/10/2015
ข่าวเศรษฐกิจ

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวว่า การจะให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้เติบโตได้ 3% ตามเป้านั้น ในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะต้องเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% หลังจากที่ครึ่งปีแรกเติบโตได้แล้ว 2.9% นอกจากนี้ ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ว่ามูลค่าการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือ จะต้องทำได้ไม่ต่ำกว่า 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จึงจะทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ติดลบไม่มากไปกว่าที่คาดไว้ 4% 
 
ทั้งนี้ เห็นว่าเรื่องการส่งออกยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะยังมีปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบทั้งแง่บวกและแง่ลบ โดยปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า มาจากภาพเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาดโลก ขณะที่ปัจจัยบวก คือ มาตรการที่ภาครัฐออกมาจะช่วยในทางอ้อมได้บ้าง รวมทั้งสถานการณ์ของประเทศคู่ค้าสำคัญที่เป็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม รวมทั้งประเทศจีน
 
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวจะยังคงเป็นพระเอกในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยรายได้จากการท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% ทำให้คาดว่าจนถึงสิ้นปี รายได้จากการท่องเที่ยวจะได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.4 ล้านล้านบาท ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 ม.ค.-17 ก.ย.58 มีจำนวน 21.16 ล้านคน เติบโต 28.5% 
 
โดยในเดือน ส.ค.58 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 2.61 ล้านคน ขยายตัว 25.1% และเมื่อหักผลทางฤดูกาลออกพบว่าหดตัว 6.0% ต่อเดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.58 ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิ ซึ่งคิดเป็น 53.5% ของด่านทั้งหมด โดยช่วงวันที่ 1-17 ส.ค.58 นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีอัตราการขยายตัว 32.9% แต่หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดพบว่าอัตราการขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.7% 
 
“ส่วนมาตรการที่ภาครัฐออกมาทั้งหมดนั้น จะเป็นมาตรการระยะสั้นที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้มีรายได้น้อย ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาวนั้นเริ่มเดินเครื่องไปบ้างแล้ว จากการเบิกจ่ายเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 58 เบิกจ่ายไปแล้ว 6 พันล้านบาท ไตรมาส 3 เบิกจ่ายแล้ว 8 พันล้านบาท ส่วนไตรมาส 4 ช่วง 2 เดือนแรก เบิกจ่ายแล้ว 9 พันล้านบาท ถือเป็นทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าปัจจัยนี้จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวได้” ผอ.สศค.กล่าว
 
ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังมอบนโยบายแก่ข้าราชการกรมการค้าภายในว่า ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการใน 3 เรื่อง ได้แก่ กำกับดูแลสินค้าเกษตร เชื่อมโยงเกษตรกร นำผลผลิตมาขายสินค้าได้โดยตรงยังตลาดกลางหรือตลาดชุมชนตามนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมโดยไม่ผ่านผู้ค้าคนกลาง รวมทั้งมีมาตรการล่วงหน้าในการดูแลราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่จะออกในแต่ละฤดูกาลเพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
 
ทั้งนี้ การดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ได้สั่งการให้เดินหน้าตรวจสอบราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ราคาสินค้ายังทรงตัวและปรับลงตามภาวะการแข่งขันและเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้าให้ตรึงราคา หลังจากสิ้นสุดมาตรการขอความร่วมมือในเดือนพฤศจิกายนนี้ 
 
ขณะที่ น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย กล่าวว่า เหตุความไม่สงบแยกราชประสงค์ไม่ส่งผลกระทบกับยอดขายของศูนย์การค้ามากนัก โดยยอดผู้เข้ามาใช้จ่ายในศูนย์การค้ายังใกล้เคียงกับยอดเดิม เชื่อว่าไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะมียอดนักท่องเที่ยวทะลุเป้าที่วางไว้ จากการจัดแคมเปญต่างๆ ในช่วงเทศกาล ทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ รวมทั้งสมาคมฯ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในศูนย์การค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย โดยปัจจุบันศูนย์การค้าที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ มีกล้อง CCTV รวม 13,000 ตัว มีเจ้าหน้าที่ รปภ. 5,000 คน ในอนาคตจะลงทุนกับมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการซื้อกล้องมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น ให้มีความคมชัดและสามารถตรวจสอบสิ่งผิดปกติได้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและลูกค้า
 
อย่างไรก็ตาม น.ส.วัลยา เรียกร้องให้ภาครัฐผลักดันและสนับสนุนแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการปรับลดภาษีนำเข้า เพื่อสามารถแข่งขันกับเวทีการค้ากับสิงคโปร์และฮ่องกง รองรับนักท่องเที่ยวจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และรัสเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในประเทศไทย จากรายได้การท่องเที่ยวปี 2557 อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านบาท อีกร้อยละ 10
ที่มาของข่าว: บ้านเมือง

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.