ธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตร นับว่าสำคัญต่อเกษตรกรทั้งภาคการผลิต ลดต้นทุน และกำลังแรงงาน มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการเร่งผลผลิตให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ "จอห์น เดียร์" เป็นหนึ่งในธุรกิจนำเข้ารถแทรกเตอร์สมรรถนะสูง สัดส่วนของตลาดในไทย 5 ปีที่ผ่านมา 30% ในปีนี้ตั้งเป้าวางกลยุทธ์การบริการหลังการขาย จัดตั้งบริษัท จอห์น เดียร์ ลีสซิ่ง พร้อมวางตลาดแทรกเตอร์รุ่นใหม่ John Deere 3036E ให้มากกว่า 40% วันนี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายไมค์ กอส ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด จอห์น เดียร์ เอเชีย ถึงทิศทางตลาดเครื่องจักรกลในไทย และพูดคุยถึงยอดขายกับวิกฤตผลิตผลทางการเกษตรว่าจะมีผลต่อธุรกิจนี้อย่างไร
- ทำไม จอห์น เดียร์ เลือกมาเปิดตลาดที่เมืองไทย
ผมมองว่าตลาดของไทยเป็นจุดศูนย์กลางของตลาดเอเชีย โดยเฉพาะอาเซียน มีศักยภาพในการเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าชาวไร่ชาวนาในไทยก็มีความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองในการทำเกษตรให้มีประสิทธิภาพโดยพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นขณะเดียวกันก็เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้นด้วยทางเราก็พยายามที่จะคิดค้นสินค้าเพื่อให้ลูกค้าเกษตรกรไทยมีการใช้งานที่ตอบโจทย์มากขึ้น
-จอห์นเดียร์มีตัวแทนจำหน่ายในไทยที่ไหนบ้าง
ตอนนี้เรามี 28 สาขาทั่วประเทศ ในปีหน้าเราจะเปิดอีก 10 สาขา คือที่ภาคอีสานตอนล่าง และภาคกลางบางจังหวัดทั้งหมดก็จะรวมเป็น 38 สาขา เราหวังว่าสินค้าตัวใหม่ที่ได้เปิดตัวไป 36 แรงม้านี้ จะเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกร และจะสามารถทำตลาดให้มีดีลเลอร์มากขึ้นในแถบภาคกลาง เพราะรถแทรกเตอร์รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับเขตพื้นที่ภาคกลางคือนาน้ำ คือภาคกลางและพื้นที่ทั่วไปที่ส่วนใหญ่ใช้แทรกเตอร์รูปแบบนาลุ่ม เช่น พื้นที่ไร่ขนาดใหญ่เพราะแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา ระบบเดินหน้า 8 เกียร์ ถอยหลัง 8 เกียร์ และสามารถเปลี่ยนทิศทางซินรีเวอร์เซอร์ ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเราก็ดูพื้นที่ที่เหมาะแก่การใช้งานโดยวางเป้าตัวแทนจำหน่ายที่เหมาะสำหรับอีสานตอนล่างและภาคกลางนาน้ำอย่างที่เรียนไป
-จุดเด่นของจอห์นเดียร์เมื่อเทียบกับธุรกิจรูปแบบเดียวกัน
จุดเด่นหลักของ John Deere คือ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่ารถจะไม่มีทางเสียแน่นอน และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงน้อย โดยเราเน้นคุณธรรมประจำบริษัท 4 ประการ คือ คุณภาพ ซื่อสัตย์ มุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าที่ดี และสุดท้ายคือ คุณค่าที่จะผลิตสินค้าให้ลูกค้า ณ เวลานี้เรามีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะมีการลงทุนพัฒนาอบรมบุคลากรให้มีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในการจัดหาอะไหล่ เพราะบางทีอะไหล่ต้องมีการจัดหา โดยเรามีคลังสินค้าทุกขนาดเวลาที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเราให้คนไทยมาเป็นเจ้าของธุรกิจ มาเป็นผู้จัดการของเราเลย ซึ่งก็ถือว่าเขาช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เพราะระบบจัดจำหน่ายทุกวันนี้เป็นระบบดีลเลอร์ ภาพลักษณ์และภาพรวมธุรกิจของจอห์น เดียร์ทั่วโลกนอกจากคุณภาพแล้ว จุดเด่นก็คือมีดีลเลอร์ที่มีศักยภาพ ประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้านั่นเอง
- นวัตกรรมใหม่ของจอห์น เดียร์ เป็นอย่างไร
จะเห็นได้ว่าเรามีการเปิดตัว 3036E ซึ่งแทรกเตอร์คันนี้เราใช้เวลากว่า 4 ปีในการพัฒนาขึ้นมา ซึ่งเป้าหมายคือเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเกษตรกรไทยและกลุ่มอาเซียนด้วย โดยมียอดสัดส่วนความต้องการรุ่นนี้ถึง 40% ของตลาด และมีการทำการศึกษาและทดสอบกว่า 50,000 ชั่วโมง กว่าจะมาเป็นรถคันนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ากลุ่มตลาดอาเซียนได้แน่นอน ด้วยประสบการณ์ของจอห์น เดียร์ ที่มีมากว่า 178 ปี ก็มั่นใจว่าสินค้าประเภทนี้จะเป็นที่ต้องการของลูกค้าในประเทศไทย และกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วรุ่นนี้ต่างจากแทรกเตอร์ชาวไร่ทั่วไป คือ อันดับแรก ประหยัดน้ำมันมาก ซึ่งเราพิสูจน์มาแล้วด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ย 1.40-1.60 ลิตรต่อไร่ สำหรับการตีดินนาน้ำ 2.ที่นั่งสบาย เพราะออกแบบมาให้สะดวกและไม่เมื่อยล้าในการใช้งานเป็นเวลานาน 3.ระบบตีดินที่ถูกออกแบบมาได้ทนทาน และตีดินได้คุณภาพตามเกษตรกรต้องการ
- การบริการหลังการขายเป็นอย่างไรบ้าง
หลัก ๆ คือ ทางจอห์น เดียร์ มีการลงทุนพัฒนาเพื่อที่จะอบรมให้ความรู้พนักงานของดีลเลอร์ทั้งหมดเพิ่ม เพื่อที่จะได้มั่นใจว่ามีการให้บริการลูกค้าได้อย่างถูกต้อง อย่างที่สอง คือ การลงทุนด้านความพร้อมด้านการบริการลูกค้า อุปกรณ์อะไหล่ต่าง ๆ มีการรับประกันสินค้าและรถด้วย แล้วมีสิทธิพิเศษด้านสินเชื่ออย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ผมได้วางสิทธิพิเศษไว้ว่า ซื้อตอนนี้ 15% เราจะมีเงินช่วยเหลือเงินดาวน์ แถมอะไหล่ให้อีก 1,100 ชั่วโมง ให้กับลูกค้า แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่ไม่ได้ผ่านสินเชื่อก็จะได้คูปองเติมน้ำมันฟรี ช่วงนี้ถึงธันวาคม ถ้านอกเหนือจากโปรโมชั่น เราก็มีเฉพาะให้ทุกรุ่นที่ไม่ใช่แค่รุ่นใหม่นี้ด้วย
- ภาพรวมยอดขายจอห์น เดียร์ ไทยแลนด์
เนื่องจากบริษัทเราเป็นแบบ Public เลยไม่สามารถให้ข้อมูล by Country ได้ แต่มีตัวเลขที่สามารถบอกได้ของปีที่แล้ว สำหรับ John Deere Worldwild มียอดขายในตลาดทั่วโลกที่ 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาทในส่วนของกลุ่มเป้าหมาย (Target) ที่เราเปิดตัวไปโดยเฉพาะสินค้าตัวใหม่นี้ คาดเป้าภายในปี 2018 จะสามารถทำให้เราเพิ่มยอดขายส่วนแบ่งทางการตลาดในไทยได้มากถึง 2 เท่า ส่วนเป้ายอดขายของปีนี้ที่ประมาณเท่าใดนั้นอาจจะไม่สามารถบอกตัวเลขได้ แต่เราคิดว่าตัวเลขคงจะมีการเติบโตไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน โดยเฉพาะเมืองไทยและตลาดอาเซียน
- กลยุทธ์การรุกตลาดในกลุ่มอาเซียน
นอกจากไทยแล้วยังมีสิงคโปร์ที่เป็นออฟฟิศ มีการจ้างงานในอาเซียนและมีตัวแทนจำหน่ายให้กับกลุ่มประเทศเหล่านี้ ตอนนี้ถ้าพูดถึง 50 แรงม้าขึ้นไป จอห์น เดียร์ กล้าการันตีเลยว่ามีส่วนแบ่งการตลาดที่ค่อนข้างแข็งแรงและเป็นผู้นำ ที่ผ่านมา เรายังไม่มีรถแทรกเตอร์ที่มีแรงม้าน้อยกว่า 45-50 แรง จึงหวังว่านวัตกรรมใหม่นี้เมื่อออกมาสู่การใช้งานจะครอบคลุมและให้ประสิทธิภาพดีแน่นอน
- ธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง มีความคิดเห็นอย่างไร
เรามั่นใจในคุณภาพโดยให้ลูกค้าทดลอง มีการทำกิจกรรมสาธิต เพราะบริษัทเรามีเทรนนิ่งให้ทดลองขับก่อนซื้อเพื่อให้พึงพอใจที่สุด โดยเฉพาะให้ความรู้ชาวไร่อ้อย เรามีการให้ความรู้ลูกค้าว่าจะมีวิธีการยังไงถึงจะได้มีผลผลิตที่ดีขึ้น ต้นทุนน้อยลง การบริหารจัดการ การจัดอบรม ถามว่านอกจากจะเน้นเกษตรกรชาวไร่อ้อยแล้ว จะพัฒนาไปสู่เกษตรกรรายอื่นอีกไหม แน่นอนว่าต้องมีชาวไร่ชาวนา มัน ข้าวโพด พืชไร่เศรษฐกิจทั้งหมดเพิ่มเติมด้วย
- ขณะนี้ราคาผลผลิตทางการเกษตรลดลงส่งผลต่อยอดขายแค่ไหน
เราก็มองนะว่า เมืองไทย ณ เวลานี้ ในด้านของราคา หรืออุตสาหกรรมการเกษตรก็ตกลงไปไม่น้อย แต่ทางจอห์น เดียร์ เราเน้นในเรื่องของแรงม้าสูง โดยเฉพาะชาวไร่อ้อย ฉะนั้นยอดขายเราก็เลยสูง ในแง่ของธุรกิจเรา ลูกค้าหลัก ๆ เราจะเป็นชาวไร่อ้อยพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสาน แม้ว่าจะมีฤดูกาลฝนแล้ง หรือเจอสภาพแวดล้อมปัจจัยภายในภายนอกอย่างไร ยอดขายเครื่องจักรกลทางการเกษตรเราไม่ได้ลดลงตาม เพราะเรามีการบริการสินเชื่อ ไฟแนนซ์ บริการหลังการขาย ที่ทำให้เกษตรกรมั่นใจในการเลือกซื้อจอห์น เดียร์