นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาแผนงานต่างๆ ที่จะเร่งเดินหน้าการช่วยเหลือภาคธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์จะของบประมาณเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยต่อเนื่อง 3 ปี กว่า 704 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีที่มีกว่า 2.8 ล้านราย รวมกับวิสาหกิจชุมชนไม่น้อยกว่า 80,000 ราย เพราะกลุ่มธุรกิจเหล่านี้เป็นเศรษฐกิจฐานรากที่จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการการขับเคลื่อนเอสเอ็มอี ระยะเวลา 3 ปี (ปี’59-61) เพื่อเชื่อมโยงตั้งแต่การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการ การใช้เทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจจนสามารถนำสู่การสร้างผู้ประกอบการรายใหม่

“ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ เน้นที่การสร้างสังคมผู้ประกอบการและความเข้มแข็งโดยพัฒนาธุรกิจรายสาขาด้วยการสร้างการเรียนรู้ การฝึกปฏิบัติจากโลกการค้าจริง นอกจากนี้จะสร้างตลาดให้แก่เอสเอ็มอี โดยวางมาตรการสร้างตลาดทุกระดับเชื่อมโยงท้องถิ่น อาเซียน และตลาดโลก ในตลาดระดับท้องถิ่นได้ เน้นถึงความจำเป็นของภาคเกษตรที่ต้องมีตลาดกลางที่มีศักยภาพความเป็นมาตรฐานในการเป็นศูนย์กลางรองรับผลผลิต สามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ ลดค่าการตลาดและเพิ่มมูลค่าของผลผลิต ซึ่งปัจจุบันมี 54 แห่ง”

กระทรวงพาณิชย์คาดว่าใน 3 ปี จะสามารถพัฒนาเอสเอ็มอีไม่น้อยกว่า 58,940 ราย และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน 338,800 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 419,000 ล้านบาท ปี 2559 ขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มวงเงิน 704.64 ล้านบาท เอสเอ็มอี 18,035 รายและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน280,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 333,000 ล้านบาท

ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่ามาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่าจะเสร็จวันที่ 25 ก.ย. และเสนอครม.วันที่ 29 กันยายนนี้โดยรายละเอียดเน้นช่วยผู้ประกอบการที่มีปัญหา ต้องการปรับแผนธุรกิจให้อยู่รอด และช่วยเหลือผู้ประกอบการใหม่พร้อมที่จะแข่งขัน รวมถึงทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการเดิมมีธุรกิจที่แข็งแกร่งพร้อมหาแนวทางการนำนวัตกรรมช่วยเหลือการผลิต การบริหารจัดการ ให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโต รวมทั้งให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดในประเทศและนอกประเทศซึ่งบางโครงการได้รับงบประมาณปี 2559 แล้ว แต่บางโครงการต้องของบประมาณเพิ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียด