สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เศรษฐกิจส่งสัญญาณยากลำบาก “สมคิด” วอนทุกกระทรวงแสดงฝีมือแก้ไขด่วน!
17/09/2015
ข่าวเศรษฐกิจ

“สมคิด” ขอความร่วมมือทุกกระทรวงช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชี้ไม่ได้เลวร้ายแค่เพิ่งมีสัญญาณของความยากลำบากแต่แก้ไขได้ แนะหน่วยงานรัฐชี้แจงสังคมและประชาชนอย่าปล่อยให้เป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ด้านสำนักงบฯโวงบปี 59 จ่ายคล่องแน่นอน ไม่ฝืดเหมือนปีนี้

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขอให้ทุกกระทรวง ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากสถานการณ์ ของประเทศไทยไม่ได้เลวร้าย เพียงแต่เริ่มจะมีสัญญาณของความยากลำบาก ยังสามารถจัดการ แก้ไขได้ แต่คงไม่ใช่โดยรัฐบาลเพียงอย่างเดียวจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะมาร่วมกันประคับประคองความรู้สึกของสังคมและประชาชนให้ได้ว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาและทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยดูจากการดำเนินการต่างๆ การจัดโครงการต่างๆ รวมถึงแอ็กชั่นของรัฐบาลที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการวางรากฐาน ที่กำลังเดินหน้าต่อ

ดังนั้น หากมีสิ่งที่ทำให้สังคมไม่สบายใจหรือ อ่อนไหวทางเศรษฐกิจที่อาจทำให้การเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลสะดุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจง ต้องอธิบายให้ชัดเจน เพื่อให้สังคมสบายใจ ขณะเดียวกัน ต้องชี้แจงด้วยว่ารัฐบาลมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้อย่างไร เช่นกรณีที่ค่าเงินบาทอ่อน หรือภัยแล้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจง ต้องอธิบายเพื่อให้สังคมสบายใจ อย่าอ่อนไหวตามเหตุการณ์หรือข่าวที่เกิดขึ้น

“รองนายกฯสมคิดชี้แจงด้วยว่า เวลานี้เปรียบเหมือนกับการก่อไฟในเตา หากไม่โบก หรือโบกเร็วไปก็ดับ เพราะฉะนั้น ต้องค่อยๆโบก ค่อยๆพัด เหมือนกับการประคับประคองให้ทุกอย่างเป็นตามแนวทางที่วางแผนไว้”

ขณะที่นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณได้เตรียมความพร้อมที่จะเร่งรัดการเบิกงบประมาณปี 2559 ตามแผนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายโดยจะเน้น 2 เรื่องที่สำคัญ คือ 1.กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายทั้งงบประจำและงบลงทุน 2.การเร่งรัดทำสัญญาผูกพันของหน่วยงานต่างๆ ตามที่บรรจุไว้ในงบประมาณ ปี 2559

ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้ประเมินแผนการจัดเร่งการเบิกจ่ายออกเป็นรายไตรมาส โดยคาดว่า ตลอดทั้งปีงบประมาณ 2559 ส่วนราชการจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ประมาณ 96% จากงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด 2.72 ล้านล้านบาท ส่วนรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายอยู่ที่ 87% จากงบลงทุนทั้งหมด 543,000 ล้านบาท เป็นอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 2558 ที่คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 70% หรือวงเงิน 314,000 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งหมด 449,000 ล้านบาท

โดยคาดว่า ไตรมาสแรกของปีงบประมาณปี 2559 จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ประมาณ 30% ซึ่งเป็นการเบิกจ่ายมีอัตราเร่งเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะที่ไตรมาสของงบประมาณปี 2559 จะอยู่ที่ 22% ไตรมาส 3 จะอยู่ที่ 21% และไตรมาส 4 อยู่ที่ 23% โดยคาดว่า ไตรมาสแรกของปีงบประมาณปี 2559 จะมีลงทุนที่ไหลเข้าสู่ระบบสูงถึง 226,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลพวงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลคือ 1.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล 72,000 ล้านบาท ผ่านโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท 7,000 แห่ง และการลงทุนขนาดเล็กในแต่ละท้องถิ่นไม่เกินโครงการละ 1 ล้าน บาท 2.งบกันจ่ายเหลื่อมปี 2558 ที่เบิกจ่ายไม่ทันและต้องเบิกจ่ายให้ได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 จำนวน 68,000 ล้านบาท และ 3.งบลงทุนของงบประมาณปี 2559 อีก 86,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายว่า เม็ดเงินก้อนที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปี 2558 เติบโตไม่ต่ำกว่า 3% ของจีดีพี

“ในปีงบประมาณ 2559 เราวางแผนมาดี เพราะนอกจากจะจัดทำการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นรายไตรมาสแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่สำนักงบประมาณแยกย่อยงบลงทุนออกเป็น 10 กลุ่ม เริ่มตั้งแต่ 1.กลุ่มที่มีรายจ่ายงบลงทุนต่ำกว่า 1 ล้านบาท คิดเป็นเม็ดเงิน 16,978 ล้านบาท 2.กลุ่มที่มีงบลงทุน 1-2 ล้านบาท คิดเป็น 15,499 ล้านบาท 3.กลุ่มที่มีงบลงทุน 2-5 ล้านบาท วงเงิน 46,322 ล้านบาท 4.กลุ่มที่มีขนาดงบลงทุน 5-10 ล้านบาท วงเงิน 55,132 ล้านบาท 5.กลุ่มที่มีงบลงทุน 10-50 ล้านบาท วงเงิน 122,725 ล้านบาท 6.กลุ่มที่มีงบลงทุน 50-100 ล้านบาท วงเงิน 41,653 ล้านบาท 7.กลุ่มที่มีงบลงทุน 100-500 ล้านบาท วงเงิน 85,867 ล้านบาท 8.กลุ่มที่มีงบลงทุน 500-1,000 ล้านบาท วงเงิน 25,595 ล้านบาท และ 10.คือกลุ่มที่มีงบลงทุนเกินกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็นวงเงิน 42,517 ล้านบาท กลุ่มที่สำนักงบประมาณคาดหวังมากที่สุดคือ กลุ่มที่มีงบลงทุน 10-50 ล้านบาท เพราะมีวงเงินรวมกันสูงถึง 122,725 ล้านบาท และจะเป็นตัวชี้วัดความสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2559”

ที่มาของข่าว: ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.