
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะสร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ โดยเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้มีเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนถูกต้อง 680,000 ราย จากทั้งหมด 2.7 ล้านราย ซึ่งต้องผลักดันให้เข้าสู่ระบบให้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อที่รัฐจะได้ช่วยเหลือและผลักดันให้เข้มแข็งมากขึ้น
สำหรับแนวทางในการสร้างผู้ประกอบการใหม่ จะเน้นทั้งการฝึกอบรม พัฒนา เพื่อให้เกิดธุรกิจรายใหม่ โดยรัฐจะช่วยส่งเสริมด้านองค์ความรู้ และเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษี ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการ
ขณะเดียวกัน เมื่อธุรกิจมีการจัดตั้งขึ้นแล้ว ก็ต้องหาทางเชื่อมโยงและขยายเครือข่าย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตขึ้น ซึ่งในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการจัดตั้ง Biz Club ซึ่งเป็นเครือข่ายนักธุรกิจในจังหวัดต่างๆ ที่กรมให้การช่วยเหลือ โดยล่าสุดมีการจัดตั้งแล้วใน 38 จังหวัด มีสมาชิกกว่า 7,000 ราย สำหรับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ได้เร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการที่ทำการค้าขายออนไลน์เข้ามาจดทะเบียนเข้าสู่ระบบมากขึ้น
ส่วนด้านการอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ จะต้องมีการพัฒนางานให้บริการให้มีความรวดเร็วและตอบสนองต่อความต้องการให้ได้มากขึ้น เช่น การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลคนเดียว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา และคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ เพราะหากทำได้ ก็จะทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะมีตัวตนชัดเจน และยังเข้าถึงการส่งเสริมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ด้วย
นายสุวิทย์กล่าวว่า ในด้านการจัดหาเงินทุนในการประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอี ขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีมาตรการช่วยเหลือแล้ว ส่วนกระทรวงพาณิชย์กำลังรอการบังคับใช้ของ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถนำทรัพย์สินอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้างมาใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอกู้เงินได้ เช่น เครื่องจักร พาหนะ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร.