นายไนยวน ชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม.ซี.เอส สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS ผู้ผลิตและจำหน่ายโครงสร้างเหล็กชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยว่า MCS ได้เข้าซื้อหุ้น 66% ใน Natsu Steel Structure Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตโครงสร้างเหล็กมาเกือบ 50 ปี มูลค่า 33 ล้านเยน หรือราว 9.65 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ??
ทั้งนี้ Natsu Steel Structure Co., Ltd. เป็นผู้รับจ้างผลิต ออกแบบ และติดตั้งโครงสร้างเหล็ก และเป็นโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน H Grade โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เมืองชิบะ มีกำลังการผลิต 18,000 ตัน/ปี และมีระยะทางเพียง 10 กิโลเมตรเพื่อไปยังท่าเรือชิบะ สำหรับการเข้าลงทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งแรกที่อำนวยความสะดวกด้านการผลิตให้กับบริษัท ในประเทศญี่ปุ่น และเพื่อเป็นศูนย์กลางการประสานงานกับลูกค้าที่ประเทศญี่ปุ่น และเพื่อสนับสนุนการส่งสินค้าทั้งจากไทยและจีน ที่ส่งไปติดตั้งที่ญี่ปุ่น โดยจะเป็นสถานที่ในการแก้ไข เปลี่ยนแปลงกรณีที่ลูกค้ามีความต้องการเพิ่ม ภายหลังการซื้อหุ้นใน Natsu Steel Structure Co., Ltd. แล้ว บริษัทแห่งนี้จะกลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น M.C.S.Natsu Co.,Ltd.
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังนั้น นายไนยวน ชิ กล่าวว่า บริษัทฯยังคงมีแนวโน้มที่สดใส โดยจะเห็นจากมูลค่างานในมือ(Back Log) ในปัจจุบันอยู่ที่ ระดับ 200,000 ตัน โดยมูลค่างานในมือดังกล่าวสามารถทยอยรับรู้ได้ต่อเนื่องถึงปี 2562 และคาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าส่วนใหญ่โครงสร้างเหล็กของบริษัทฯ จะมีการส่งออก 95% ไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยงานในมือดังกล่าวไม่รวมโครงการขนาดใหญ่ของบริษัทในญี่ปุ่น อาทิ งาน Olympic ในปี 2563 ดังนั้นจากดีมานความต้องการใช้เหล็กโครงสร้างในตลาดญี่ปุ่นที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯเชื่อว่าโอกาสที่จะได้รับออเดอร์ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มขึ้นก็มีความเป็นไปได้สูง
ขณะเดียวกัน ในไตรมาส3/2558 บริษัทฯ ยังได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2558 ที่ค่าเงินเยนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 27 บาทต่อ 100 เยน ซึ่งถือว่ามีการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากรายได้หลักของบริษัทฯส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินเยน ส่งผลให้ในไตรมาสนี้บริษัทฯจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับแผนการขยายการลงทุนนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทฯจะตั้งงบประมาณเรื่องการลงทุนปรับปรุงโรงงาน หรือขยายส่วนต่อเติม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเครื่องจักรใหม่ และ การขยายโรงานเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพ และขยายขีดความสามารถด้านการผลิตให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับประมาณการอัตราการเติบโต ที่บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีผลการดำเนินในปี 2558 สดใส โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านเยน