นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศว่า ในเดือน ก.ค.58 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 18,223 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 3.56% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ของปีนี้ เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 609,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.09% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบปีนี้ ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 17,452 ล้านเหรียญฯ ลดลง 12.73% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 590,211 ล้านบาท ลดลง 9.43% มีดุลการค้าเกินดุล 770 ล้านเหรียญฯ หรือเกินดุล 18,922 ล้านบาท แต่หากไม่รวมสินค้าน้ำมันสำเร็จรูป และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำแล้ว มูลค่าการส่งออกจะอยู่ที่ 15,925 ล้านเหรียญฯ ลดลง 2.6% เท่านั้น

ขณะที่ ในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปีนี้ การส่งออกมีมูลค่า 125,078 ล้านเหรียญฯ ลดลง 4.66% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 4.086 ล้านล้านบาท ลดลง 3.40% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 120,835 ล้านเหรียญฯ ลดลง 8.64% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 3.995 ล้านล้านบาท ลดลง 7.37% มีดุลการค้าเกินดุล 4,243 ล้านเหรียญฯ หรือเกินดุล 90,803 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การหดตัวของมูลค่าการส่งออกของไทย ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าอีกหลายประเทศ ซึ่งสถิติล่าสุดเดือน มิ.ย.58 ออสเตรเลีย มูลค่าส่งออกลดลง 21.3% ฝรั่งเศส ลดลง 14.6% สิงคโปร์ ลดลง 13.1% ญี่ปุ่น ลดลง 8.1% เกาหลีใต้ ลดลง 5.25 สหรัฐฯ ลดลง 5.2% เป็นต้น

สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกไทยลดลง ได้แก่ เศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักยังชะลอตัว ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าลดลง ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังลดลงต่อเนื่อง โดยเดือน ก.ค.ลดลงมากถึง 46.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มลดลงอีก เช่นเดียวกับราคาสินค้าเกษตรโลกที่ยังลดลงต่อเนื่อง และการใช้มาตรการลดค่าเงินของประเทศคู่ค้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งออก เช่น เงินยูโร ที่อ่อนค่า 13% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เงินเยนญี่ปุ่น อ่อนค่า 14.8% ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย อ่อนค่า 33.1% แต่เงินบาทอ่อนค่า 11.1% ทำให้แข่งขันยาก สินค้าไทยยังแพงอยู่

”ตอนนี้ ปัจจัยภายนอกต่างๆ ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า ที่มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเพียง 3.3% จากเดิมที่คาดโต 3.5% อาเซียน คาดโต 4.7% จากเดิมคาดโต 5.2% ขณะที่ราคาน้ำมันโลกยังมีแนวโน้มลดลงอีก จึงทำให้การส่งออกของไทยยังไม่ดีขึ้น แต่น่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายเดิมที่ติดลบ 3% จากปีก่อน” 

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออก เดือน ก.ค.ที่ลดลงนั้น เป็นการลดลงของมูลค่าส่งออกทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าเกษตร ลดลง 5.1% ตามทิศทางของราคาสินค้าเกษตรโลกที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม ลดลง 2.6% เพราะขณะที่สินค้าอื่นๆ ลดลง 10.1% ส่วนตลาดหลัก ลดลง 3.1% จากการลดลงของญี่ปุ่น 9.6% สหภาพยุโรป (15 ประเทศ) ลดลง 1.1% แต่สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.4%, ตลาดศักยภาพสูง ลดลง 3.4% จากการลดลงของอาเซียน (9 ประเทศ) 4.5% จีน ลดลง 1.6% เอเชียใต้ ลดลง 1.0% เป็นต้น ตลาดศักยภาพระดับรอง ลดลง 2.5% จากการลดลงของตะวันออกกลาง 14.6% แอฟริกา 17.8% เป็นต้น

ขณะที่ การนำเข้าที่ลดลงนั้น เป็นการลดลงในหมวดเชื้อเพลิง 29.53% หมวดสินค้าทุน 24.79% เพราะเดือน ก.ค.58 มีการนำเข้าเครื่องบินมูลค่า 200 ล้านเหรียญฯ ลดลงจากเดือน ก.ค.57 ที่นำเข้าเครื่องบินมูลค่า 700 ล้านเหรียญ หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ลดลง 0.75% แต่สินค้าวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 0.86% หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เพิ่มขึ้น 4.66% และอาวุธยุทธปัจจัย และสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น 1.66%