อุปกรณ์ที่ว่านี้...พัฒนาโดยเนคเทค เป็นเครื่องช่วยฟังแบบกล่องเสียบหู ใส่ติดตัว ไว้พูดคุย สื่อสารได้กับทุกคน ทุกเวลา เป็นหนึ่งในนวัตกรรมสุขภาพที่ยั่งยืน มาจากความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ได้แก่
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศอ.พว.) หรือคนทั่วไปรู้จักในชื่อ “เนคเทค”
เครื่องช่วยฟังฯ รุ่น P02...อินทิมา (Intima) ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล วิธีประเมินใช้เกณฑ์ 70 เดซิเบล ที่จะช่วยให้การได้ยินสมบูรณ์ จากเดิมที่ต้องนำเข้าราคาเครื่องละ 13,500 บาท “อินทิมา”...สนนราคาเครื่องละ 7,000 บาทเท่านั้น แถมออกแบบให้ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟใหม่ได้ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายระหว่างใช้งาน
เครื่องนี้ผ่านการทดสอบทางคลินิกตามมาตรฐานสากล และมีระบบควบคุมการผลิตตามมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ ISO 13485 จนได้รับเครื่องหมาย CE สามารถวางจำหน่ายได้ในสหภาพยุโรป
ภายใต้โครงการนำร่องเพื่อกระจายเครื่องช่วยฟังฯ นำมาใช้จริงกับผู้พิการทางการได้ยิน ให้เข้าถึงการรักษา 1,000 เครื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ สปสช.จัดให้คนพิการทางการได้ยินเข้าถึง
จากการสำรวจข้อมูล คนพิการทางการได้ยินสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปัจจุบันมีทั้งสิ้น 166,536 คน พบคนพิการทางการได้ยินที่ได้รับอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังมีเพียง 28,302 คนเท่านั้น
เพื่อช่วยให้คนพิการทางการได้ยินเข้าถึงบริการอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังมากขึ้น สปสช.และเนคเทค จึงได้ขยายโครงการเพิ่มเติมอีก 1,000 เครื่อง ด้วยงบประมาณอีก 7 ล้านบาท...รวมเครื่องช่วยฟังที่ให้ผู้พิการทางการได้ยินในโครงการนี้เป็น 2,000 เครื่อง งบประมาณ 14 ล้านบาท
ถัดมา “เก้าอี้ทำฟันฝีมือคนไทย”...เป็นอีกงานวิจัยที่เกิดจากการเห็นปัญหาเก้าอี้ทำฟันนำเข้าราคาค่อนข้างสูง และถ้าเครื่องเสียจะต้องรออะไหล่จากต่างประเทศเป็นเวลานาน แถมยังมีค่าใช้จ่ายสูง จึงได้วิจัยพัฒนาเก้าอี้ทำฟันโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านมาประยุกต์ใช้ให้เกิดเป็นเทคโนโลยี มีคุณภาพ
ผลงานชิ้นนี้ได้การรับรองมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ระดับสากล และได้การรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ปัจจุบันได้จำหน่ายเก้าอี้ทำฟันให้กับโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทยไปแล้วกว่า 3,000 เครื่อง และในอนาคตมีแผนทางการตลาดที่จะส่งออกไปทั่วโลก ในนาม THAI DENTAL “Brand Made in Thailand”
เก้าอี้ทำฟันฝีมือคนไทย...ยังคงมีอุปกรณ์ตามมาตรฐาน และอีกเวอร์ชั่นที่ต้องกล่าวถึงคือเก้าอี้ทำฟันสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ใช้วีลแชร์เป็นเก้าอี้ โดยเคลื่อนเข้าไปในถาดรองด้านล่าง ซึ่งจะมีระบบไฮดรอลิกปรับเอนได้ทันที โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายลงจากวีลแชร์ ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บในการเคลื่อนย้ายด้วยการอุ้ม ประคอง
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์...สาธารณสุข
“ส่งผลให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อมุ่งส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพรวมถึงการรักษาพยาบาลต่างๆอย่างมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ในฐานะผู้ให้บริการทั้งภาครัฐ...เอกชน ผู้ป่วย...ประชาชนทั่วไป”
นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการนำนวัตกรรมการแพทย์... สาธารณสุขที่ประดิษฐ์โดยฝีมือคนไทยนำไปสู่การใช้งานจริง สะท้อนให้เห็นชัดเจน ในงานมหกรรม... “ตลาดนัดนวัตกรรมการแพทย์ไทย (Medical Innovation of Thailand) ผลิตภัณฑ์จากแนวคิด สิ่งประดิษฐ์ด้านการแพทย์” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมการแพทย์ฯ 195 รายการ มีทั้งผลงานที่เป็นผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งมีนวัตกรรมผลงานที่โดดเด่น อาทิ บ้านสำหรับผู้สูงอายุ ระบบหุ่นยนต์ผ่าตัด หุ่นยนต์ดินสอมินิ หุ่นยนต์สอนเด็กออทิสติก รถพยาบาลนาโน
ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งสัดส่วนการจัดแสดงผลงานเพื่อให้เห็นกระบวนการตั้งแต่ “ต้นน้ำ”...ที่เป็นการนำเสนอแนวคิดตั้งต้น “กลางน้ำ”...ที่นำเสนอให้เห็นถึงการนำมาต่อยอด และ “ปลายน้ำ”...ที่นำเสนอการนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง รวมถึงนิทรรศการต่างๆที่เกี่ยวข้อง
อาจมีบางประเด็นร้อนให้เก็บเกี่ยวบนเวทีเสวนาจากผู้แทนหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน
ยกตัวอย่างเช่น เสวนารัฐซื้อรัฐใช้สินค้านวัตกรรมทางการแพทย์, เสวนาและถ่ายทอดประสบการณ์... “กว่าจะเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ของคนไทย”, เสวนา... “โอกาสและปัจจัยเอื้อ เพื่อเสริมความมั่นใจต่อนวัตกรรมทางการแพทย์ไทย”, เสวนา... “การลงทุนร่วมภาครัฐเอกชนสู่การพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ไทย”
นวัตกรรมผลงานประดิษฐ์เด่นๆด้านการแพทย์และสาธารณสุขฝีมือคนไทย จะถูกนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะอย่างคุ้มค่า โดยมีภาครัฐสนับสนุน
มหกรรมครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างมาก ไปเป็นประธานพิธีเปิดด้วยตนเองในวันที่ 18 สิงหาคม เวลา 15.30 น. โดยมี...กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) สำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เกิดผลปฏิบัติ
ศ.นพ.รัชตะ ย้ำว่า ตลาดนัดนวัตกรรมครั้งนี้ โรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับคงจะเห็นคุณค่า ร่วมสนับสนุนนวัตกรรมการแพทย์ฯฝีมือคนไทย...ผลิตในประเทศไทย ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน มีการนำไปใช้อย่างคุ้มค่า นอกจากจะเป็นการพึ่งพาตนเอง ลดรายจ่ายในการนำเข้าสินค้าทางการแพทย์จากต่างประเทศแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการสาธารณสุขมากขึ้น...จากการลดต้นทุนการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นำเข้า
อีกเวทีที่น่าจับตาก็คือการพบปะระหว่างผู้พัฒนานวัตกรรมการแพทย์ฯ ผู้ผลิต และผู้ใช้งานจริง จะเป็นการเพิ่มโอกาสเจรจาจับคู่ธุรกิจ นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้ ...ส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดคิดค้นนวัตกรรมการแพทย์ฯในอนาคต รวมถึงเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ
ประเทศไทยมีการวิจัย...พัฒนาทางการแพทย์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ครอบคลุม ยา วัคซีน วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ แต่ปัญหามีว่า...การพัฒนาไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ทำได้น้อย
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีมูลค่าและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม สร้างกลไกเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุน สามารถอยู่รอด...เติบโตได้ จะมีความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้
ในอดีต แต่ละปีประเทศไทยต้องนำเข้ายา...วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศเป็นจำนวนมากเพราะเราไม่สามารถคิดค้น...ผลิตได้เอง แต่วันนี้นักวิจัยไทยก็มีศักยภาพในการคิดค้นนวัตกรรมไม่แพ้ต่างประเทศ
“ตลาดนัดนวัตกรรมการแพทย์ไทย”...นอกจากเป็นการแสดงศักยภาพประเทศไทยด้านการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว ยังมีส่วนสนับสนุนนโยบายสำคัญของประเทศ...ทั้งนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์อาเซียน.