คลังเดินหน้าลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรเพิ่มกว่า 400 รายการ กระตุ้นเศรษฐกิจ สศค.เผยอยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบ หวังช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการ สภาอุตฯขานรับ มาตรการดีเตือนต้องรอบคอบไม่ควรลดให้เครื่องจักรทุกประเภท หวั่นกระทบผู้ผลิตเมดอินไทยแลนด์
ตามที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณามาตรการทางภาษีในส่วนของการยกเว้น/ลดภาษีและอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร วัสดุและปัจจัยการผลิต เพื่อสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ส.ค.นั้น
ล่าสุด รมว.คลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ได้รายงาน 6 มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้า โดยมาตรการส่วนใหญ่เป็นมาตรการที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ไม่ใช่มาตรการใหม่ อย่างกรณีมาตรการด้านภาษีที่จะลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรนั้น ที่ผ่านมาก็มีการทำมาแล้ว เพียงแต่จะมาดูว่ามีอะไรที่ทำเพิ่มเติมได้อีก ซึ่งต้องใช้เวลาไปศึกษาก่อนแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การลดหรือยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องมือเครื่องจักรจะต้องพิจารณาให้เป็นการทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเป็นรายอุตสาหกรรม โดยมาตรการนี้ไม่ได้มุ่งหวังเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนให้กับผู้ผลิต เพื่อที่จะได้มีการลงทุนเพิ่มเติมขณะที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มาตรการทางด้านภาษีที่คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ซึ่งมีนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธานนั้น ยังอยู่ระหว่างหาข้อสรุปเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยกรณีการลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร คงจะต้องพิจารณาในรายละเอียดว่า มีรายการไหนที่ลดภาษีได้บ้าง"เครื่องจักรในประเทศไทย มีอยู่ 1,200 รายการ แต่กว่า 700 รายการ มีการลดอากรเป็นศูนย์ไปแล้ว อันนี้ก็ต้องมาดูว่า รายการที่เหลือเป็นอะไรบ้าง จากก่อนหน้านี้ที่เรายังไม่ได้ยกเว้นให้ เพราะเครื่องจักรที่ผลิตในประเทศ แต่ตอนนี้ก็ต้องดูว่าบางรายการควรจะลดเป็นศูนย์ด้วยหรือเปล่า ต้องดูในรายละเอียด" นายกฤษฎากล่าวนายกฤษฎากล่าวว่า การพิจารณาจะลดภาษีให้หรือไม่นั้น ต้องดูว่าผลกระทบเป็นอย่างไร รวมทั้งลดภาษีแล้วช่วยลดต้นทุนได้แค่ไหน ถ้าไม่มีผลกระทบอะไรมากก็ลดได้ เพราะผลจากข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ (FTA) ก็มีผลกระทบทำให้ต้องลดภาษีนำเข้าเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว โดยเมื่อต้นปีรัฐบาลได้มีการยกเว้นอากรขาเข้ากลุ่มสินค้าวัตถุดิบ ปัจจัยการผลิตที่ไม่มีในประเทศ ซึ่งก็ช่วยลดต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ SMEs ได้มาก ส่วนครั้งนี้เป็นเรื่องเครื่องจักรผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 2557 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการยกเว้นอากรขาเข้ากลุ่มสินค้าวัตถุดิบ ปัจจัยการผลิตที่ไม่มีในประเทศ จากอัตราปัจจุบัน 1-3-5-10% ซึ่งมีทั้งหมด 1,274 รายการย่อยและปรับลดอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักรเครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักร เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต รวม 258 รายการ จากอัตรา 20-30% เหลือ 10% ทั้งหมด โดยกระทรวงการคลังและกรมศุลกากรประเมินว่ารัฐจะสูญเสียรายได้กว่า 6,100 ล้านบาท เป็นรายได้ที่หายไปในปีงบประมาณ 2558 ที่หายไปราว 4,700 ล้านบาท และรายได้ในปีงบประมาณ 2559 อีกประมาณ 1,500 ล้านบาทด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากรกล่าวว่า การลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรจะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการได้มาก เพียงแต่จะต้องพิจารณาดูว่า เป็นเครื่องจักรที่มีการผลิตในประเทศหรือไม่ ซึ่งจะต้องหารือกับทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้ชัดเจน"ถ้าลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร ช่วยลดต้นทุนแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นผู้ประกอบการก็มีต้นทุนจากภาษีอยู่ พอลดภาษีให้เขาก็จะตัดสินใจนำเข้า แต่ก็ต้องดูว่ามีส่วนที่ผลิตในประเทศหรือไม่ ตรงนี้ต้องคุยกับ ส.อ.ท. อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ สศค. พิจารณาไม่ใช่กรมศุลกากร" นายสมชัยกล่าวส่วนที่ผ่านมา การลดภาษีขาเข้าวัตถุดิบกว่า 1,200 รายการนั้น อธิบดีกรมศุลกากร ยอมรับว่าส่งผลกระทบในแง่การจัดเก็บรายได้ที่หายไปเดือนละกว่า 500 ล้านบาท หรือในปีงบประมาณ 2558 จะกระทบกว่า 4,000 ล้านบาทนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวของกระทรวงการคลัง แต่หน่วยงานที่ดูแลต้องพิจารณารายละเอียดของการนำเข้าเครื่องจักรด้วย ไม่ใช่ลดภาษีการนำเข้าเครื่องจักรทุกชนิด เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยสามารถผลิตเครื่องจักรเองได้ โดยเฉพาะเครื่องจักรขนาดกลางและขนาดเล็ก "เครื่องจักรกลุ่มไหนที่ไทยสามารถผลิตเองได้ ก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปส่งเสริมโดยการลดภาษีการนำเข้า เพราะนอกจากไทยผลิตเองได้แล้ว การพัฒนาการผลิตเครื่องจักรของคนไทยยังมีคุณภาพแข่งขันกับเครื่องจักรของต่างประเทศได้ ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้ตรงกับอุตสาหกรรมเป้าหมายมากขึ้น ส่วนอัตราภาษีที่จะลดควรเป็นเท่าไรนั้นไม่สามารถตอบได้ เพราะปัจจุบันภาษีการนำเข้าเครื่องจักรของไทยต่ำอยู่แล้ว" นายสุพันธุ์กล่าว