ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ได้แถลงตัวเลขเศรษฐกิจและภาคการเงินเดือนมิถุนายน และไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 โดยยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมของเดือนมิถุนายน ยังฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ภาคการท่องเที่ยว โดยล่าสุดมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยสูงถึง 2.3 ล้านคน ทำให้ไทยได้รับผลดีจากนักท่องเที่ยวจาก จีน มาเลเซีย และรัสเซีย ที่เห็นว่าเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ฟื้นตัว และกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้งหนึ่ง ภาคการลงทุนของรัฐในโครงการขนาดเล็กของกระทรวงคมนาคม และกรมชลประทาน มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีแรงหนุนมากขึ้น ซึ่งมีการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา ขยายตัวถึงร้อยละ 22.3

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยลบหลายด้าน โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน ตัวเลขการส่งออกติดลบสูงถึงร้อยละ 8.9 หรือมีมูลค่าการส่งออกเพียง 17,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น ยอมรับว่าการติดลบดังกล่าวมากกว่าที่ทาง ธปท.คาดการณ์ไว้ โดยสินค้าไทยส่งออกลดลงเกือบทุกหมวดสินค้า จึงส่งผลต่อตัวเลขประมาณการณ์ที่ ธปท.คาดว่า ตัวเลขส่งออกปี 58 จะติดลบเพียงร้อยละ 1.5 และคาดว่าคงจะมีการปรับประมาณการณ์อีกครั้ง ซึ่งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เร็วๆ นี้ จะนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมด้วย 

นอกจากนี้ ขณะเดียวกันในด้านการบริโภคเอกชนที่ลดลง มาจากปัจจัยจากรายได้ของเกษตรกรลดลง ขณะที่รายได้นอกภาคการของเกษตรกรทรงตัวในเดือนมิถุนายน ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถูกกระทบจากปัญหาภัยแล้งและสถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศ ยอมรับว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงส่งผลให้การค้าในภูมิภาคซบเซาลง รวมทั้งปัจจัยอุปสงค์ในต่างประเทศที่ยังไม่เข้มแข็งขณะนี้ ทำให้ธุรกิจการผลิตลดผลิตสินค้าอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับการระบายสินค้าสินค้าคงคลังแทน ส่วนการลงทุนภาคธุรกิจมีไม่มาก และส่วนใหญ่เป็นการซ่อมแซมหรือปรับปรุงการผลิตเท่านั้น ขณะที่เสถียรภาพภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม ยอมรับว่าในส่วนนี้ เศรษฐกิจไทยยังเป็นเศรษฐกิจที่ดีอยู่ โดยเฉพาะอัตราการว่างงานต่ำ รายได้ภาคการเกษตรลดลง ส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปด้านการผลิตและบริการมากขึ้น ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจของเดือนมิถุนายนที่ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นหลัก