สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

“พล.อ.ฉัตรชัย” เตรียมนำรัฐ-เอกชน บินเจรจา FTA ปากีสถาน
03/08/2015
ข่าวเศรษฐกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำภาคเอกชนเดินทางเยือนปากีสถาน กลางเดือนสิงหาคมนี้ หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เดินหน้าเปิดเจรจาความตกลงการค้าเสรี FTA ไทย - ปากีสถาน เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกของไทย ตั้งเป้าขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 2,000ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2561 



นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำคณะภาครัฐและเอกชน เดินทางเยือนปากีสถาน เพื่อเข้าร่วมประชุม JTC ไทย - ปากีสถาน ครั้งที่ 3ระหว่างวันที่ 12 - 13สิงหาคม 2558ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้เปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ไทย - ปากีสถาน โดยในการประชุมนี้ รัฐมนตรีการค้าของทั้งสองประเทศ จะประกาศเริ่มการเจรจา FTA ไทย - ปากีสถาน และจะหารือแนวทางความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมทั้งการทำให้การค้าสองฝ่ายมีความสะดวกคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ จะพิจารณาความร่วมมือในสาขาที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพที่จะสามารถดำเนินการ เพื่อประโยชน์ร่วมกัน เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ อาหาร เกษตรและประมง ยานยนต์และชิ้นส่วน และจะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยกับปากีสถานเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างกันในสาขา อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ อัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล โดยหลังจากนี้ ไทยจะเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการเจรจาจัดทำ FTA ไทย - ปากีสถาน ครั้งที่ 1ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2558เพื่อให้แผนการเจรจาจัดทำความตกลง FTA ไทย - ปากีสถาน แล้วเสร็จภายในกลางปี 2560ซึ่งทั้ง 2ประเทศ ได้ตั้งเป้าขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 2,000ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2561จากปี 2557มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 1,016ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้เปิดการเจรจาไทย - ตุรกี หลังจากตุรกี ตัดสิทธิ GSP กับไทย ทำให้ไทยต้องเสียภาษีในอัตราปกติ ซึ่งการจัดทำ FTA จะช่วยให้ไทยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจากตุรกีเป็นการถาวร เอื้อประโยชน์โดยตรงให้กับไทยในการเข้าสู่ตลาดที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง ซึ่งตุรกี จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการเจรจาจัดทำ FTA ไทย - ตุรกี ครั้งที่ 1 ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2558 เพื่อผลักดันแผนให้การเจรจาจัดทำความตกลง FTA ไทย - ตุรกี แล้วเสร็จภายในปลายปี 2559 โดยจากการศึกษาพบว่า การจัดทำ FTA จะส่งผลให้ GDP ของไทยจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 65.9 – 76.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มาของข่าว: ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.