
“พาณิชย์” ยันสถานการณ์ในตุรกี ไม่กระทบการเจรจาเอฟทีเอ และการค้าระหว่างกัน แต่เลื่อนเจรจาออกไปก่อนจากเดิมเดือนส.ค. รอจัดตั้งรัฐบาลใหม่ตุรกีให้เสร็จ ส่วนฟองสบู่ตลาดหุ้นจีน คาดคุมได้ ไม่น่ากระทบการค้าไทย...
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ ยืนยันเหตุชาวตุรกีประท้วงไทยกรณีส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทย-ตุรกีแน่นอน โดยเป้าหมายการเจรจายังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ไทยต้องเลื่อนการเดินทางไปเจรจาเอฟทีเอที่ตุรกีออกไปจากเดิมเดือน ส.ค.นี้ เพราะช่วงนี้ตุรกีกำลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หากเสร็จเรียบร้อย ไทยจะเดินทางไปเจรจาทันที โดยมีเป้าหมายเจรจาให้แล้วเสร็จอย่างช้าที่สุดไม่เกิน 2 ปี
”แต่ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำกรุงอิสตัสบูล ประเทศตุรกี ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบการค้าระหว่างกัน สำหรับมูลค่าการค้าไทย-ตุรกีในปี 57 ที่อยู่ที่ 1,377 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นไทยส่งออก 1,088 ล้านเหรียญฯ และไทยนำเข้า 283 ล้านเหรียญฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และอุปกรณ์ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์เคมี ตู้เย็นและชิ้นส่วน เป็นต้น”
ส่วนสถานการณ์ในประเทศจีน ที่คาดว่าอาจเกิดภาวะฟองสบู่แตกในตลาดเงินตลาดทุนนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยังเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะจีนมีเงินทุนสำรองมาก สามารถใช้เม็ดเงินที่มีอยู่ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามได้ และคาดว่า จะไม่กระทบกับการค้าระหว่างไทยและจีนในภาพรวม รวมถึงแผนกระตุ้นการส่งออกของไทยที่เน้นการบุกตลาดเมืองรองในจีน ที่ยังมีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจดี และมีจำนวนประชากรมาก เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้น จะกระทบความเชื่อมั่นและกำลังซื้อภายในของจีนบ้าง แต่ยังอยู่ในวงจำกัด