สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

พาณิชย์ปลื้มหลังเยือนลาตินอเมริกาขายได้ทันที 5.8 แสนเหรียญสหรัฐฯ
17/06/2015
ข่าวเศรษฐกิจ

    นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าหลังจากเป็นหัวหน้าคณะเดินทางเยือนลาตินอเมริกาพร้อมด้วยภาคเอกชนจากสภาหอการค้าฯ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ และอีก 21 บริษัท เพื่อขยายตลาดสินค้าไทยในชิลี เปรู และโคลัมเบีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งทั้งในการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ(Business Matching)

โดยการเยือนชิลีได้หารือกับผู้บริหารสภาอุตสาหกรรม และกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ  รวมทั้งเป็นประธานกล่าวเปิดงาน และกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Business Forum เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย – ชิลี โดยไทยได้เจรจากับผู้แทนการค้า ผลักดันให้ชิลีเร่งรัดดำเนินกระบวนการภายในเพื่อให้ความตกลงการค้าเสรี ไทย-ชิลี มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็ว โดยเสนอให้ตั้งเป้าหมายการบังคับใช้ความตกลงฯ ภายในช่วงการประชุมผู้นำเขต เศรษฐกิจเอเปค เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อช่วยขยายมูลค่า การค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งไทยจะใช้ชิลีเป็นประตูการค้าเปิดตลาดสินค้าไทยไปสู่ภูมิภาคลาตินอเมริกา ขณะที่ชิลีก็สามารถใช้ประโยชน์จากไทยในการบุกตลาดอาเซียนได้

จากการที่ไทยมีภูมิศสาตร์ที่ได้เปรียบเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ และโดยเฉพาะรัฐบาลกำลังมีโครงการพัฒนาระบบรางและถนนที่ชัดเจนในขณะนี้ โดยไทยเสนอให้ทางชิลีจัดคณะผู้แทนภาคเอกชนเดินทางมาเยือนไทยต่อไป

    นอกจากนี้ ด้านการขยายการลงทุนของชิลีในไทยนั้นได้หารือกับประธานบริษัท Sigdo Kopperซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดในชิลี ซึ่งปัจจุบันได้มาลงทุนในไทยแล้วและมีแผนที่จะขยายกิจการเพิ่มขึ้น จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตลูกเหล็ก (Steel ball) ที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการถลุงแร่ เพื่อกระจายไปในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งฝ่ายชิลีมีความมั่นใจในประเทศไทยเป็นอย่างดี

    สำหรับการเยือนเปรูได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยวเปรู (H.E. Mr. Edgar Vasquez) นั้น ไทยและเปรูตั้งเป้าหมายการลงนามความตกลงการค้าเสรี ไทย-เปรู ฉบับสมบูรณ์ (ซึ่งเป็น ส่วนขยายพิธีสารเพื่อเร่งลดภาษีสินค้าส่วนแรกที่มีผลบังคับใช้ เมื่อปี ๒๕๕๔) ในช่วงการประชุมผู้นำ เขตเศรษฐกิจเอเปค เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ ประเทศฟิลิปปินส์  นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศจะ จัดทำแผนงานเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างกันให้มากยิ่ง ขึ้น เช่น การจัดคณะนักธุรกิจเพื่อ เจรจาธุรกิจ การส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและประมง และการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทาง เทคโนโลยีการเกษตร เป็นต้น และฝ่ายไทยได้แจ้งถึงการจัดตั้ง Trade Representative ของไทยประจำประเทศเปรู  เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการค้าระหว่างไทย –เปรู ให้เพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต และในขณะนี้กำลังสรุปรายละเอียดเพื่อบังคับใช้ FTA ฉบับสมบูรณ์ในปี 2558 นี้ ซึ่งเป็นปีที่ไทย - เปรู มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งจัดการดำเนินกิจกรรมทางการค้า เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย – เปรู ให้มากยิ่งขึ้น เช่นการจัดคณะผู้แทนการค้า การจัด Press Mission เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจการใช้ประโยชน์จาก FTA

    นางอภิรดี กล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้มีการจัดกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทย 21 บริษัท กับผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ โดยสินค้าต่างๆที่ไปเปิดตลาดและมีโอกาสได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิคส์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งสินค้าไทยเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดชิลี และเปรู โดยเฉพาะรถกระบะของไทยที่ได้รับความนิยม เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน รายใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ภาคเอกชนไทยได้แยกไปจับคู่เจรจาธุรกิจ(Business Matching)ที่ประเทศโคลัมเบียด้วย ซึ่งจากการจัด Business Matching กับทั้ง 3 ประเทศ ประสบความสำเร็จเกินคาดดังนี้

-ประเทศชิลี วันที่ 8  มิถุนายน 2558 มีจำนวน Buyer/importer/trader เข้าร่วม 41 บริษัท
มีมูลค่าการซื้อขายทันที 232,500 เหรียญสหรัฐฯ และ มูลค่าที่คาดว่าจะสั่งซื้อภายใน 1 ปี 1,897,000เหรียญสหรัฐฯ

-ประเทศเปรู วันที่ 10  มิถุนายน 2558 มีจำนวน Buyer/importer/trader เข้าร่วม 62 บริษัท
มีมูลค่าการซื้อขายทันที 240,000 เหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าที่คาดว่าจะสั่งซื้อภายใน 1 ปี 2,182,000
เหรียญสหรัฐฯ

-ประเทศโคลัมเบีย วันที่ 12  มิถุนายน 2558 มีจำนวน Buyer/importer/trader เข้าร่วม 140 บริษัท มีมูลค่าการซื้อขายทันที 110,000 เหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าที่คาดว่าจะสั่งซื้อภายใน 1 ปี 1,861,000 เหรียญสหรัฐฯ

    สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมใน 3 ประเทศได้แก่ เครื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ rubber auto part อุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ สรุปรวม 3 ประเทศสั่งซื้อทันที 582,500 เหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะสั่งซื้อภายใน 1 ปีอีก 5,940,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.