นางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(บีโอไอ) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา
บีโอไอได้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจริงโดยเร็ว ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2558
(มกราคม-เมษายน 2558)
บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 957 โครงการ
เงินลงทุนรวมประมาณ 325,490 ล้านบาท
สูงกว่ามูลค่าการอนุมัติโครงการลงทุนช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงประมาณ
6.5 เท่า (โครงการที่ได้รับการอนุมัติช่วง 4 เดือนแรกปี 57 มีมูลค่าประมาณ
43,370 ล้านบาท)
สำหรับกิจการที่ได้รับการอนุมัติในช่วงประมาณ 4 เดือน
กระจายอยู่ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มกิจการบริการและสาธารณูปโภค
จำนวน 229 โครงการ เงินลงทุนประมาณ 115,050 ล้านบาท
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 110 โครงการ
เงินลงทุนประมาณ 59,360 ล้านบาท อุตสาหกรรมโลหะ เครื่องจักร
ยานยนต์และชิ้นส่วนประมาณ 188 โครงการ เงินลงทุนประมาณ 51,210 ล้านบาท
อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พลาสติก และกระดาษ จำนวน 198 โครงการ เงินลงทุนประมาณ
46,000 ล้านบาท อุตสาหกรรมเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตรประมาณ 161 โครงการ
เงินลงทุนประมาณ 25,110 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมเบา จำนวน 51 โครงการ
เงินลงทุนประมาณ 15,800 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมแร่ เซรามิก
และโลหะขั้นมูลฐาน จำนวน 20 โครงการ เงินลงทุนประมาณ 12,960 ล้านบาท
สำหรับการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 4 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 237
โครงการ เงินลงทุนรวมประมาณ 37,620 ล้านบาท กิจการส่วนใหญ่จำนวน 131
โครงการ (มูลค่า 19,750 ล้านบาท) หรือประมาณ 55%
ของโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด
เป็นกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ใหม่ของบีโอไอ
และสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล อาทิ กิจการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล
กิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ กิจการผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วน
กิจการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ กิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กิจการซอฟต์แวร์
ทั้งในส่วนเอ็นเตอร์ไพรซ์ซอฟต์แวร์ (Enterprise Software)
และดิจิตอลคอนเทนต์ (Digital Content) รวมทั้งกิจการคลาวเซอร์วิส
รวมทั้งยังมีกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
กิจการวิจัยและพัฒนา และกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น