ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 พ.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ได้นำเสนอรายงาน การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (ฉบับย่อ)
ซึ่งเป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29
เม.ย.ที่ผ่านมา โดย กนง.พบว่า
แรงส่งของเศรษฐกิจไทยจะกลับมาเร่งขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558
ยังน้อยกว่าที่คาด
ทำให้โอกาสที่การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3.8%
ส่งผลให้ กนง.ได้ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25%
ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 โดยปัจจัยเสี่ยง 3 ปัจจัยหลักต่อเศรษฐกิจไทย คือ
1.แรงส่งภาคการคลังอาจเร่งขึ้นเพียงชั่วคราว
2.ผลบวกต่อการบริโภคภาคเอกชนจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอาจไม่เพียงพอ และ
3.การส่งออกของไทยอาจไม่ได้รับอานิสงส์เต็มที่จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า สายนโยบายการเงินได้รายงาน
กนง.ด้วยว่า
โอกาสที่การส่งออกของไทยจะขยายตัวเป็นบวกในครั้งนี้มีค่อนข้างน้อย
เนื่องจากตัวเลขการติดลบของการส่งออกในไตรมาสแรกต่ำกว่าที่
ธปท.คาดไว้ค่อนข้างมาก
โดยหากต้องการให้การขยายตัวของการส่งออกของไทยทั้งปีขยายตัวได้ที่ 0%
การส่งออกในช่วง 8 เดือนที่เหลือ
จำเป็นต้องมีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ต่อเดือน ซึ่งเมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออก 4
เดือนแรกถือว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในปีนี้นั้น
มีโอกาสมากขึ้นที่เงินเฟ้อทั้งปีนี้จะติดลบ แต่ในขณะนี้
กนง.ยังไม่ถือว่าเป็นภาวะเงินฝืด แต่ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงมากขึ้น
เห็นได้จากการที่ราคาสินค้าจำนวนมากขึ้นมีแนวโน้มชะลอตัว