นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ยอดการตั้งโรงงานใหม่ในเดือนกันยายน2557 มีจำนวน 536 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 32.67% ขณะที่มูลค่าการลงทุน มีมูลค่า 32,514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.57% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดการตั้งโรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น และมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ย. ทำให้ยอดการตั้งโรงงานใหม่ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.57) มีจำนวน 3,307 โรงงาน ลดลง 3.87% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ยอดเงินลงทุนรวม 263,777 ล้านบาท ลดลง 0.17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ยอดการตั้งโรงงานใหม่เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 63.41% รวมทั้งมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 59.93% เช่นกัน
โดยอุตสาหกรรมที่มีจำนวนเปิดกิจการมากที่สุดในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.57) ได้แก่ อุตฯ ผลิตอโลหะ 323 โรงงาน อุตฯ ผลิตยานพาหนะและชิ้นส่วน 304 โรงงาน อุตฯ ผลิตภัณฑ์โลหะ 295 โรงงาน ในขณะที่โรงงานที่เปิดใหม่ที่มีมูลค่าการลงทุนสูง ได้แก่ อุตฯ ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะ มูลค่าลงทุน 4.7 หมื่นล้านบาท อุตฯ ผลิตภัณฑ์โลหะ 2 หมื่นล้านบาท อุตสาหกรรมอาหาร 1.6 หมื่นล้านบาท
“ยอดตั้งโรงงานใหม่ในเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้นกว่า 32% จากเดือนสิงหาคม เนื่องจากทางกรมโรงงานมีการอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการออกใบอนุญาตกิจการโรง งาน (รง.4) จาก 90 วัน เป็น 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา” นายพสุกล่าว
นายพสุ กล่าวอีกว่า ยอดการเปิดกิจการใหม่ในปี 57 น่าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งหากรวมกับเรื่องการออกใบ รง.4 ให้กับโรงไฟฟ้า ที่กรมโรงงานส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) พิจารณาต่ออีกจำนวน 94 โรงงาน มูลค่าการลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากทางเรกกูเลเตอร์อนุญาตจะส่งผลให้ยอดเปิดโรงงานเพิ่มขึ้นจากปี 56 ไม่น้อยกว่า 10% โดย กรอ.ได้ประสานงานกับเรกกูเลเตอร์เพื่อจัดตั้งคณะอนุกรรมการยกร่างข้อตกลงการ ทำงานร่วมกัน (เอ็มโอยู) เพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการให้มีความสะดวกในจุดเดียวเบ็ดเสร็จและโปร่ง ใสมากยิ่งขึ้น โดยภายในเดือน ก.ย.นี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ
ดยในปี 2558 หากสถานการณ์ด้านการเมือง เศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงเป็นปกติและการดำเนินงานเชิงรุกของกรมโรงงานที่ มีเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ในปี 58 จะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าปี 57 โดยทางกรมโรงงานตั้งเป้าโรงงานเปิดกิจการใหม่อยู่ที่ 5,000-6,000 โรงงานต่อปี ซึ่งปีนี้เหลืออีก 3 เดือนคาดว่าจะได้ตามเป้าอย่างแน่นอน