บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ขยายธุรกิจเปิด 2 บริษัทใหม่ในราชอาณาจักรกัมพูชา และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ถือหุ้น 100% เพื่อสั่งบุกทำตลาดต่างประเทศก่อนเปิด AEC คาดบริษัทฯ ใหม่สามารถดึงยอดขายทั้ง 2 ประเทศแตะเป้า 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2558
 

มร.ฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ภายใต้เงินลงทุนกว่า 68 ล้านบาท ได้แก่ KUBOTA (Cambodia) CO., Ltd. ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา 38 ล้านบาท บาท และ KUBOTA Lao Sole CO., Ltd. ณ สปป.ลาว 30 ล้านบาท เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการขยายตัวของธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรในระดับภูมิภาค โดยรูปแบบการดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัท จะรับผิดชอบเฉพาะในส่วนของการทำตลาด และการให้บริการหลังการขายให้แก่ลูกค้าในราชอาณาจักรกัมพูชา และสปป.ลาว โดยมีผู้บริหารระดับสูงที่มาจากประเทศไทยเป็นผู้ควบคุมและดูแลเพื่อผลักดันนโยบายให้ไปในทิศทางเดียวกัน และคัดเลือกบุคลากรในท้องถิ่นมาปฏิบัติงานเป็นหลัก โดย KUBOTA (Cambodia) CO., Ltd. นายวีรพงศ์  วิรบุตร์ และ KUBOTA Lao Sole CO., Ltd. นายจิระศักดิ์  สิทธิวงศ์  เป็นกรรมการผู้จัดการในแต่ละบริษัท โดยบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ยังเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนรับดูแลควบคุมการขาย การส่งออก และการผลิตสินค้าและอะไหล่โดยตรง
 

บริษัทฯ ได้วางตำแหน่งของสินค้าเป็น “เครื่องจักรกลการเกษตรคุณภาพสูง และมีบริการหลังการขายที่เป็นเลิศสำหรับเกษตรกรมืออาชีพ” พร้อมทำการสื่อสารที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาด ด้วยแนวคิดหลัก “ที่ 1 ในใจเกษตรกร” ในระดับภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว และพม่า“ด้านการรุกตลาด บริษัทฯ จะเน้นขยายเครือข่ายทั้งผู้แทนจำหน่าย ศูนย์บริการเทคนิค และการกระจายอะไหล่ พร้อมสร้างการรับรู้และความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรในการพัฒนาภาคเกษตรกรรรมให้ครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรกัมพูชา และสปป.ลาว ผ่านการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง และมุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ Total Process Solutions ทั้งลูกค้าเกษตรกรรายย่อย และกลุ่ม Contract Farming โดยชูคุณภาพของสินค้าตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่นและการให้บริการหลังการขายเป็นเลิศตามมาตรฐานสยามคูโบต้า เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกราย  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและประชาชนให้ดีขึ้นในทุกประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจ  ซึ่งกิจกรรม CSR จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดในการสร้างความแตกต่างกับแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ ในต่างประเทศ เนื่องจากยังไม่มีแบรนด์เครื่องจักรกลการเกษตรใดที่มีกิจกรรมรูปแบบนี้มาก่อน ตัวอย่างกิจกรรมที่สยามคูโบต้าได้ดำเนินการไปแล้ว อาทิ การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนช่างเครื่องจักรกลการเกษตรร่วมกับสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น การมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย การมอบเสื้อกันหนาวให้แก่ชาวบ้านในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยหนาว และการสนับสนุนให้ผู้แทนจำหน่ายรวมกลุ่มจัดตั้งชมรมร้านค้าสยามคูโบต้าในแต่ละประเทศเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น” มร.ฮิโรชิ กล่าวเพิ่มเติม

 

ปัจจุบัน สัดส่วนการส่งออกของสยามคูโบต้า คิดเป็น 20% ของยอดขายทั้งหมด โดยมีสัดส่วนยอดขายในกัมพูชาและลาวสูงถึง 40% และ 15% ตามลำดับ โดยประชากรในราชอาณาจักรกัมพูชาประกอบอาชีพเกษตรกรรมกว่า 9.4 ล้านคน หรือ คิดเป็น 65% ของประชากรทั้งหมด รัฐบาลมีนโยบายเน้นการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ส่วนสปป.ลาว ประชากรประกอบอาชีพเกษตรกรรมทั้งสิ้น 4.7 ล้านคน หรือ คิดเป็น 75% ของประชากรทั้งหมด รัฐบาลส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตในการส่งออก โดยพืชที่เกษตรกรของทั้ง 2 ประเทศนิยมเพาะปลูกมากที่สุด คือ ข้าว 
 

จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทั้งหมด สยามคูโบต้าจึงเชื่อมั่นว่าตลาดเครื่องจักรกรการเกษตรในภูมิภาคอาเซียนจะเติบโตสูงขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกัมพูชา และ สปป.ลาว เพราะเกษตรกรจำเป็นต้องเร่งแข่งขันกันลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพก่อนการเปิด AEC ซึ่งเครื่องจักรกลการเกษตร คือ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ บริษัทฯ จึงได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นเพื่อสร้างและผลักดันตลาดให้สยามคูโบต้ามียอดขายในกัมพูชา 5,000 ล้านบาท และ สปป.ลาว 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2558