เครื่องจักรกลเกษตร” เป็นปัจจัยการ ผลิตผลิตทางการเกษตรที่มีความสำคัญต่อ เกษตรกรมากขึ้น ปัจจุบันเกษตรกรรายย่อยมีการใช้เครื่องยนต์เกษตรไม่น้อยกว่า 15 ล้านเครื่องทั่วประเทศ เป็นเครื่องยนต์สูบเดียวใช้ในรถไถเดินตามและเครื่องสูบน้ำ แต่เกษตรกร ประมาณ 80% ยังใช้เครื่องยนต์เกษตรไม่ถูกวิธี ทำให้เกิดความเสียหายและชำรุดก่อนเวลาอันควร กองส่งเสริมวิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ได้แนะนำ เทคนิคการใช้เครื่องยนต์เกษตรอย่างถูกวิธี เพื่อเป็นแนวปฏิบัติสำหรับเกษตรกรซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์เกษตรให้ยาวนานขึ้น และช่วยลดค่าซ่อมแซมได้มากขึ้นด้วย
นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เพื่อให้เครื่องยนต์เกษตรมีอายุการใช้งานทนทานขึ้น และไม่ต้องซ่อมแซมบ่อย เกษตรกรผู้ใช้จำเป็นต้องรู้จักวิธีการใช้และการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและทำได้ไม่ยาก โดยสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ คือ ก่อนติดเครื่องยนต์ทุกครั้งต้องตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่กำหนด ถ้าไม่ถึงต้องเติมให้ได้ระดับ ทั้งยังต้อง ตรวจระดับน้ำมันเครื่องในหม้อกรองอากาศ ให้อยู่ในระดับที่กำหนดด้วย
นอกจากนี้ ยังต้องตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำ หากน้ำไม่เต็มต้องเติมด้วยน้ำสะอาดให้ได้ระดับ และต้อง ตรวจความตึงของสายพาน อย่าให้ตึงมากไปหรือหย่อนมากเกินไป โดยสายพานพัดลมให้หย่อนได้ ประมาณ 5-10 มิลลิเมตร และ ก่อนติดเครื่องยนต์ทุกครั้งให้ใช้มือหมุน หมุนเครื่องยนต์ 10-15 รอบ ขณะที่หมุนเครื่องยนต์ให้คันเร่งอยู่ในตำแหน่งดับเครื่อง เพื่อให้น้ำมันเครื่องจ่ายไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ก่อน
เมื่อติดเครื่องยนต์แล้ว ก่อนที่จะใช้งานให้เดินเบาเครื่อง (ตำแหน่งเบาเครื่องสุดแล้วเครื่องยนต์ไม่ดับ) ประมาณ 5 นาที จึงค่อยเดินเครื่องใช้งานตามปกติ หากใช้งานทันทีโดยไม่เดินเบาเพื่ออุ่นเครื่องยนต์ก่อน จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้น
ภายหลังใช้เครื่องยนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง ให้เดินเครื่องเบา ประมาณ 5 นาที จึงค่อยดับเครื่องยนต์โดยผลักคันเร่งไปยังตำแหน่งดับเครื่อง อย่าดับเครื่องยนต์โดยวิธียกลิ้นไอเสีย จะทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ ซึ่งเป็นวิธีง่าย ๆ ที่เกษตรกรสามารถปฏิบัติได้
ทางด้าน นายนเรสน์ รังสิมันตศิริ หัวหน้าฝ่ายช่าง กองส่งเสริมวิศวกรรมเกษตรกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรตามกำหนดเวลา เป็นสิ่งสำคัญที่เกษตรกรผู้ใช้ควรใส่ใจและไม่ควรละเลย ซึ่งจะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ยาวนานขึ้น โดยเกษตรกรผู้ใช้เครื่องยนต์ จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและทำความสะอาดไส้กรองน้ำมันเครื่องโดยใช้น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เบอร์ 40 ทุก ๆ 100 ชั่วโมงการทำงาน ทั้งยัง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันโซลาร์ ทุก ๆ 100 ชั่วโมงการทำงาน เปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำ แล้วเติมน้ำสะอาดลงไปในหม้อน้ำให้เต็ม ทุก ๆ 300 ชั่วโมงการทำงาน และ ควรทำความสะอาดหม้อกรองอากาศ ทุก ๆ 100 ชั่วโมงการทำงานด้วย
’เกษตรกรผู้ใช้เครื่องยนต์ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม เพียงแต่ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้แบบเดิม มาปฏิบัติอย่างถูกต้องตามคำแนะนำทั้งการใช้และการบำรุงรักษา จะทำให้เครื่องยนต์เกษตรมีอายุการใช้งานทนทานขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและไม่ต้องเสียเวลา เกษตรกรสามารถที่จะใช้งานเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพ และคุ้มค่าต่อการลงทุนด้วย“ หัวหน้าฝ่ายช่าง กล่าว
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับ ’วิธีการใช้และการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตร“ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมวิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2940-6185 หรือศูนย์ส่งเสริมวิศวกรรมเกษตรที่ 1-6 ที่อยู่ใกล้บ้าน.